สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเอฟเอ พร้อมทั้ง พรีเมียร์ลีก ประกาศอย่างเป็นทางการรับรองการซื้อหุ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวน 27.7 เปอร์เซนต์ของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ จากการยืนยันของทีม “ปีศาจแดง” ผ่านเว็บไซต์สโมสร
การซื้อขายดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1.3 พันล้านปอนด์ หรือเกือบ 6 หมื่นล้านบาท โดยมหาเศรษฐีจากสหราชอาณาจักร เข้ามาเป็น 1 ใน 4 หุ้นส่วนของสโมสร โดยจะมีการอัดฉีดให้กับทีมเพิ่มเติมอีก 238 ล้านปอนด์ นอกเหนือจากเงินในการซื้อหุ้น
ก่อนหน้านี้แม้ “เซอร์จิม” ยังไม่ได้ถูกรับรองในการซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการ แต่เจ้าตัว และกลุ่มอิเนออส ก็เหมือนเริ่มงานในทีม “ปีศาจแดง” ไปแล้วในส่วนของหลังบ้าน ดึงตัว โอมาร์ เบร์ราด้า จากแมนเชสเตอร์ ซิตี นั่งตำแหน่งซีอีโอคนใหม่
ขณะเดียวกันกำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพื่อดึง แดน แอชเวิร์ธ จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรอีกด้วย
“การเป็นเจ้าของร่วมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง” เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ กล่าว
“ถือเป็นการเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมทั้งหมด แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในโปรเจกต์เพื่อนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปสู่จุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ ยุโรป และระดับโลก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนบอลของเรา การทำงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้นจะเร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้”
ทั้งนี้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ดำเนินการเรื่องซื้อหุ้นสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยื่นประมูลเพื่อขอเทคโอเวอร์สโมสรแข่งกับ ชีค จัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี กลุ่มทุนจากกาตาร์ ก่อนเอาชนะใจตระกูลเกลเซอร์ในที่สุด
นอกจากนี้ กลุ่มทุนอิเนออส ของ เซอร์จิม ยังมีโอกาสซื้อหุ้นของสโมสรจากตระกูลเกลเซอร์เพิ่มเติมในหุ้นคลาส บี หากมหาเศรษฐีชาวอเมริกันต้องการจะขายเพิ่มในอนาคต
