เมื่อราชดำเนินปะทะลุมพินี

กีฬา ข่าวด่วนวันนี้

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

เดือดแน่สำหรับวงการมวยไทยในปีใหม่ 2566 นี้ เมื่อสองเวทีมาตรฐานยักษ์ใหญ่ของวงการมวยไทย คือเวทีมวยราชดำเนิน กับลุมพินี จัดมวยชนกันเต็มๆ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อทางเวทีมวยลุมพินีดึงรายการระดับเอเชียอย่าง “วัน เอฟซี” มาระเบิดศึก “วัน ลุมพินี” จัดรายการของวันเอฟซีที่สนามมวยลุมพินีทุกวันศุกร์ โดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 20 มกราคมนี้เป็นต้นไป แถมมีถ่ายทอดสดทางทีวียักษ์ใหญ่ช่อง 7HD ช่อง 35 ด้วย ซึ่งก็ถือเป็นประวัติศาสตร์เหมือนกันที่ช่อง 7 ยอมยกเลิกรายการละครหลังข่าววันศุกร์ ที่ครองความเป็นเจ้าเรตติ้งมาตลอด เพื่อถ่ายทอดสดรายการมวย เอาง่ายๆ ที่ผ่านมารายการฟุตบอลแฟนติดตามเยอะขนาดไหน ช่อง 7 ยังไม่เคยถ่ายทอดสดฟุตบอลหลังข่าวเลย ถ้ามีรายการฟุตบอลช่วงนั้น ช่อง 7 ก็จะถ่ายทอดแห้ง คือออกอากาศแบบ “ดีเลย์” รอให้ละครจบก่อน หรือไทยรัฐทีวีช่อง 32 เอง ได้เป็นพันธมิตรถ่ายทอดรายการของวัน เอฟซีมาตลอด ก็ถ่ายทอดแบบ “ดีเลย์” เหมือนกัน แต่งานนี้ช่อง 7 ถ่ายทอดสดแสดงว่าทาง “วัน เอฟซี” จัดเต็มแน่ๆ

รายการมวยถ่ายทอดสดออกทีวีในค่ำวันศุกร์นั้นเจ้าของพื้นที่เดิมเมื่อปีที่แล้วคือเวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งจัดศึก “RWS ราชดำเนิน เวิร์ลด์ ซีรี่ส์” จัดนักมวย 8 คนใน 6 รุ่น พร้อมมวยหญิงอีก 1 รุ่น ชกกันแบบมวยรอบตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา และว่ากันมาจนปิดซีซั่นแรกได้แชมป์กันไปเมื่อก่อนสิ้นปี มีการถ่ายทอดสดทางเวิร์คพ้อยท์ทีวี ช่อง 23 มาปีนี้ทาง RWS ก็ประกาศจัดต่ออย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทำให้กลายเป็นสงครามระหว่างราชดำเนิน กับลุมพินีแบบชนกันเต็มๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะให้ดราม่าเพิ่มขึ้นอีก ก็เห็นจะเป็นที่ทาง RWS นั้นได้มวยจากค่าย “เพชรยินดีอคาเดมี่” ของ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ มาร่วมรายการ โดยเสี่ยโบ๊ทเองก็กลับมาเป็นโปรโมเตอร์จัดมวยลงรายการนี้เองด้วย ซึ่ง “เสี่ยโบ๊ท” นั้นก็เพิ่งถอนตัวจากรายการของ “วัน เอฟซี” มาหมาดๆ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็เท่ากับว่า “เสี่ยโบ๊ท” ต้องมาจัดมวยชนกับ “วัน เอฟซี” เต็มๆ ซึ่งเชื่อว่าในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม ทาง RWS คงไม่ยอมถอยแน่ๆ ชนเป็นชน

งานนี้ดูไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะเหนือกว่าใคร ทาง “วัน เอฟซี” นั้นได้ใหญ่ โดยเฉพาะการให้ค่าตัวนักมวยระดับ “พรีเมี่ยม” มีการดึงมวยดังเข้าสังกัดเตรียมจัดรายการ “วัน ลุมพินี” ให้ยิ่งใหญ่ แถมใช้กรรมการต่างชาติทั้งหมด เพื่อหวังยกระดับการให้คะแนนให้เป็นตามมาตรฐานสากล ลดปัญหาเรื่องการพนันลง แต่การชกแบบไม่มีการไหว้ครู ไม่มีปี่กลอง มันก็จะมีกลิ่นอายนมเนยหน่อยๆ แฟนมวยจะรับได้แค่ไหนก็น่าสนใจ รวมทั้งการเน้นมวยไทย ลดความสำคัญของ MMA ที่เคยเป็น “จุดขาย” มาตลอด ก็เท่ากับว่ากลับไปแย่งแฟนมวยกลุ่มเดียวกัน มากกว่าจะสร้างฐานแฟนศิลปะการต่อสู้รุ่นใหม่ๆ ส่วน RWS นั้นมีมวยดีๆ อยู่ในสังกัดอยู่แล้ว แต่จะเห็นว่าการให้คะแนนก็ยังเน้นรูปมวย เน้นเข่า มากกว่าการให้คะแนนสมัยใหม่ที่ดูการออกอาวุธโดยรวม แต่ก็ถือว่าได้ใจแฟนมวยไทยพันธุ์แท้ มีการไหว้ครู ก็เป็นภาพลักษณ์ที่ดีของมวยไทย การมีปี่กลองก็ได้อารมณ์มวยไทยแท้ๆ งานนี้ใครจะเหนือกว่าใครต้องรอการพิสูจน์ ที่แน่ๆ แฟนมวยได้ดูมวยดีๆ แน่นอน แต่ลำบากว่าจะเลือกไปดูที่ไหน หรือดูที่บ้านก็ต้องเตรียมรีโมทย้ายช่องให้พร้อมจริงๆ

แหล่งข่าว https://m.mgronline.com/sport/