รองแต้ม พร้อมผู้เชี่ยวชาญนิติเวช เชื่อ คดีน้องชมพู่ ตำรวจมีผู้ต้องสงสัยในใจ

ข่าวด่วนวันนี้

(2 ต.ค.63) จากกรณีการหายตัวไปของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดี ท่ามกลางความสนใจของประชาชน ตลอด 144 วัน จนล่าสุด วันที่ 2 ต.ค.63 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แถลงความคืบหน้าของคดี โดยยืนยันว่า น้องถูกพาขึ้นไปยังยอดเขาภูเหล็กไฟ โดยตอนนี้ยังไม่ตั้งข้อหาใคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ในรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เจ้าของฉายา มือปราบหูดำ ได้มานั่งวิเคราะห์ถึงคดีน้องชมพู่ โดยระบุว่า ตนวิเคราะห์ตั้งแต่แรกแล้วว่า ต้องมีคนทำให้ตาย เพราะน้องขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟเองไม่ได้ อีกทั้ง การที่เจอเส้นผมที่ถูกตัดทำลาย ซึ่งน้องตัดเองได้หรือไม่ ถ้าน้องดึงผมเองก็ต้องมีรากผม เสื้อที่หายไป หายไปไหน

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า ต้องชื่นชม ผบ.ตร. ในการออกมาให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเท่าที่มี คดีนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นคดีแรก ที่ 4 เดือนแล้ว ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แม้จะเก็บวัตถุพยานได้ทุกอย่าง ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ ที่มีวิดีโอเล่าขั้นตอนการทำงาน แต่จะพุ่งว่าต้องจับคนร้ายให้ได้ตอนนี้ แม้พยานหลักฐานมี แต่ยังไม่ชัดเจนพอที่จะจับคนร้ายได้ ซึ่งต้องรอเวลาอีกหน่อย

เมื่อถามว่าขาดอะไร พล.ต.ต.วิชัย เผยว่า ผบ.ตร. แถลงเองว่า อาศัย DNA แทบจะไม่ได้ ดังนั้นต้องมาอาศัยพยานบุคคล แต่ก็ถูกทำลายน้ำหนักพยาน ดังนั้น อาจจะต้องไปตั้งต้นใหม่ และไปหาพยานวัตถุมาให้ได้ ซึ่งเมื่อเจอ อาจจะมีประเด็นขึ้นมาอีก ถ้าเด็กเสียชีวิตจุดอื่น แล้วไปทิ้ง อาจจะไม่ได้เอาเสื้อไป หรือตกระหว่างทาง หรือถ้าทำตรงนั้น แล้วเสื้อหายไป คนร้ายก็อาจจะเอาเสื้อไปทำอะไร ตนเชื่อว่ามันสำคัญ ที่ต้องตามหาให้ได้ ส่วนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเก็บไปหมดแล้ว

รศ.นพ.วีระศักดิ์ เผยต่อว่า ตอนนี้อย่าไปเน้นเรื่อง DNA อย่างเดียว แต่ในสถานที่เกิดเหตุถูกรบกวน ด้วยการเจอน้อง เจอในช่วงกลางคืน ดังนั้นการเก็บเส้นขน เส้นผม ทำได้ยากมาก หรือแม้กระทั่งการถูกปนเปื้อน แต่ตำรวจได้ทำอย่างเต็มที่ จากนั้นก็นำมาตรวจความเชื่อมโยง แต่ยังมีบางชิ้นที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผมที่จะนำไปตรวจ ต้องมีรากผม แต่ตัวผมไม่มี ทำให้ใช้เทคโนโลยีอื่นในการตรวจ

เส้นผมที่พบเป็นของชมพู่ แต่ที่นำไปตรวจเพื่อให้เห็นว่ามีของผู้อื่นติดอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีก็เป็นของน้องชมพู่ ซึ่งถ้าห่างออกไป ก็เป็นของญาติสายแม่ ซึ่งเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่า เป็นของญาติผู้หญิงฝั่งแม่ ซึ่งเป็นเหมือนการตรวจคัดกรองความต่าง หาความเชื่อมโยง ว่าตรงกับญาติทางไหน ไม่ได้หมายความว่า บุคคลเหล่านี้ อยู่บริเวณนั้น หรือเกี่ยวข้องกับน้อง

เมื่อถามถึงความหมายของเส้นผมที่ถูกตัด พล.ต.ต.วิชัย ระบุว่า ตามที่ฟัง ผบ.ตร. เชื่อได้ว่าผมทั้งหมดเป็นของน้องชมพู่ แต่ทำไมต้องตัด ตนเชื่อว่ามีนัย ความเชื่อแต่ละท้องถิ่นจะมีความเชื่อไม่เหมือนกัน บางครั้งคนที่ตาย จะมีการทำพิธีกรรมกับศพ ซึ่งเป็นการกระทำทั่วไป อาจจะเป็นพิธีกรรมอะไรหรือไม่ ต้องมาวิเคราะห์กัน ก็จะพอรู้ว่า ทำไมต้องตัด แล้วถามว่า แถวนั้นใครทำแบบนี้บ้าง หรือมีที่ไหนทำแบบนี้บ้าง ซึ่งก็อาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยคนอื่น ต้องไปสืบสวนหาตัว

จากนี้ไปจะเดินไปอย่างไรต่อ รศ.นพ.วีระศักดิ์ ระบุว่า ถ้าฟังจากที่แถลง พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ชัดแล้วประมาณ 99% ก็ต้องรอวัตถุพยานใหม่ ถึงไปดำเนินการเพิ่มเติม หรือต้องรอเทคโนโลยีที่เพิ่มเติมในอนาคต แต่ที่ไม่หยุด คือการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม

พล.ต.ต.วิชัย บอกว่า การที่ตำรวจทำอย่างละเอียดแบบนี้ ทำให้คนเห็นขั้นตอนที่พิสูจน์ได้ เวลาที่การจับกุมคนร้าย จะได้ไม่มีข้อโต้แย้ง ต่อไปจะทำการอย่างไร ตำรวจคงไม่ทิ้งแน่ แต่สิ่งที่จะทำต่อไป ต้องหาพยานวัตถุ สิ่งที่มันหายไป อย่างเช่น เสื้อ พยานบุคคล มาดำเนินการต่อให้ได้ บางทีตอนนั้นอาจจะไม่กล้าให้การ แต่พอนานเข้า อาจจะมาให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ขึ้นได้

เมื่อถามว่าการที่ ผบ.ตร. แถลงว่า หลักฐานที่มีเชื่อว่าจับคนร้ายได้ แต่ต้องแน่นที่สุด พล.ต.ต.วิชัย บอกว่า สิ่งที่ห่วงคือ เวลาที่นาน จะทำให้สืบสวนคนร้ายได้ยากขึ้น แต่ตนเชื่อว่า ผบ.ตร.รู้ว่าใครคือคนร้าย แต่จะจับอย่างไร ที่ทำให้ดิ้นไม่ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัว ตนก็มีคนร้ายในใจเหมือนกัน ซึ่งคนร้ายจะต้องเกี่ยวข้องกับน้อง เป็นคนใกล้ชิด จากนั้นก็ต้องมาดูตามหลัก คนที่ก่อเหตุ หรือเป็นผู้ต้องสงสัย จะต้องดิ้นมากที่สุด คนแบบนี้น่ากลัว แต่คนที่ไม่ก่อเหตุ ก็ไม่ต้องดิ้น เพราะยังไง เขาก็ไม่ได้ทำ

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ระบุว่า ตนเห็นด้วย เพราะตำรวจน่าจะมีแนวทาง แต่ยังไม่มีหลักฐานที่มัดไปจนถึงชั้นศาลได้ ซึ่งต้องไปหาพยานหลักฐานอื่นมา มาทำให้น้ำหนักเพียงพอ 4 เดือนไม่ได้มากไปหรอก เพราะสถานที่เกิดเหตุอยู่บนเขา มีสิ่งรบกวน ไม่เหมือนในกรุงเทพฯ ที่มีวงจรปิด หรือมีคนเห็น

เมื่อถามว่า เราได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ พล.ต.ต.วิชัย ระบุว่า เราได้รู้วิธีการทำงานของตำรวจ ในการทำงานที่รัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดการโต้แย้งได้ และฝากไปถึงความสนใจของพี่น้องประชาชน และการให้ข่าว.