การแข่งขันกรีฑา ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” เปิดฉากการชิงชัยเป็นวันแรก ที่หางโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 29 กันยายน
ไฮไลต์อยู่ที่รายการวิ่ง 100 เมตร รอบคัดเลือก ชาย “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มทีมชาติไทย เจ้าของสถิติประเทศไทย วิ่ง 100 เมตร สถิติ 10.09 วินาที และวิ่ง 200 เมตร สถิติ 20.37 วินาที ลงแข่งขันในฮีตที่ 4 ปรากฎว่า ภูริพล สับฝีเท้าเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ของฮีต ด้วยเวลา 10.13 วินาที ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 30 กันยายนนี้
ขณะที่ “ต้า” สรอรรถ ดาบบัง เจ้าของ 2 เหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ลงแข่งขันในฮีตที่ 1 ปรากฎว่า สรอรรถ ออกสตาร์ทตามหลัง แต่เร่งสปีดเบียดแซงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ของฮีต ด้วยเวลา 10.26 วินาที ซึ่งเป็นการทำลายสถิติดีที่สุดของตัวเอง พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเช่นกัน
หลังการแข่งขัน สรอรรถ กล่าวว่า “สถิติที่ทำได้ถือว่าเกินคาด หลังจากที่ตั้งใจเอาไว้แค่วิ่งให้เต็มที่ แต่ไม่คิดว่าเวลาจะดีขนาดนี้ โดยระหว่างแข่งสะดุดกับลู่ของนักกีฬาข้างๆ ตอนเข้าเส้นไปแล้ว ทำให้มีอาการเจ็บเสียวข้อเท้านิดนึง ซึ่งจะให้ทีมเช็กอาการก่อน และขอบคุณคนไทยที่เชียร์ทีมกรีฑาไทย”
ส่วนวิ่ง 100 เมตรหญิง รอบคัดเลือก ฮีต 2 “น่าน” ศุภานิช พูลเกิด ควบฝีเท้าเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ของฮีตด้วยเวลา 11.36 วินาที ซึ่งเป็นการทำลายสถิติที่ดีที่สุดของตัวเอง พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
หลังจบการแข่งขัน ภูริพล กล่าวว่า “พอใจกับสถิติตัวเองมาก เนื่องจากถือว่าได้ปลดล็อก ที่ไปกล้ามเนื้อกระตุกที่ซีเกมส์ ที่กัมพูชา กลับมาแข่งขันได้แบบสมบูรณ์อีกครั้ง ถือว่าดีใจมากๆ อย่างไรก็ตาม ในรอบคัดเลือกยังออกตัวไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ต้องเร่งตามสู้ แล้วมาผ่อนช่วงเข้าเส้นชัย เนื่องจากมองว่าเป็นรอบคัดเลือก ซึ่งจะคัดเอาเข้ารอบฮีตละ 4 คน คิดว่าติด 1 ใน 4 ก็พอแล้ว”
“วันนี้ต้องกลับไปทำการบ้านเรื่องการออกตัวอีกนิดหน่อย เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ แต่พยายามจะไม่คิดมาก ไม่อยากกดดันตัวเอง วิ่งให้เป็นตัวเองมากที่สุด ขอบคุณแฟนกรีฑาชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ อย่างให้ทุกคนตามเชียร์กันต่อในรอบต่อไปด้วย”
