ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ดุเดือดเลือดพล่านอย่างที่สุด โดยเฉพาะการลุ้นแชมป์
3 ม้าศึกยังคงวิ่งแบบไม่หยุด เพื่อไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากเป็นครั้งแรกของซีซั่นที่ 3 ทีมหัวตารางลงเล่นคนละวัน
“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เป็นทีมล่าสุดที่ลงสนาม คว้าชัยขาดลอยถึงครึ่งโหลที่บรามอลล์ เลน ปิดเกมแมทช์เดย์ประจำสัปดาห์ ด้วยการอัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หมอบกระแต 6-0
เป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดที่ยิงได้มากกว่า 5 ประตูในเกมเยือนในลีก 3 เกมติดต่อกัน ต่อจากเบิร์นลี่ย์ในเดือนกันยายน 1961
อาร์เซน่อล ยังทำสถิติยิงประตูมากที่สุดใน 7เกม 31 ประตู ทุบสถิติเดิมที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2017/18 ยิง 28 ประตูใน 7 เกม
ผลงานน่าจับตาของ มิเกล อาร์เตต้า ทีม ในบอลลีก นั่นคือ ทำประตูได้มากที่สุด 65 ลูก, คลีนชีทมากที่สุด 11 นัด, เสียประตูน้อยที่สุด 23 ลูก และโดนยิงเข้าเป้าน้อยที่สุด 65 ครั้ง
เป็นทีมแรกด้วยในปีนี้ ที่มีนักเตะถึง 5 คนทำประตูบวกกับแอสซิสต์ ทะลุถึงเลขสองหลัก!!!!!
21 – บูกาโย ซาก้า, 12 – มาร์ติน โอเดการ์ด, 10 – กาเบรียล มาร์ติเนลลี,10 – เดแคลน ไรซ์ และ 10 – ไค ฮาแวร์ตซ์
ฟากฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงที่เพิ่งคว้าชัยชนะในนาทีที่ 90+9 จากดาร์วิน นูนเญซ ที่หายเจ็บกลับมาพอดิบพอดี ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยในครึ่งหลัง
ผ่านมาแล้ว 27 นัด ลิเวอร์พูล มี 63 คะแนน ประตูได้เสียบวก 39 ลูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 62 คะแนน ประตูได้เสีย บวก 35 ลูก และ อาร์เซน่อล61 คะแนน ประตูได้เสียบวกมากสุด45 ลูก
ปืนใหญ่จะขึ้นไปจะขึ้นเป็นจ่าฝูงหากชนะ เบรนท์ฟอร์ด ในวันเสาร์นี้เที่ยงคืนครึ่ง ก่อนเกมบิ๊กแมทช์ หงส์-เรือที่จะเตะกันในวันอาทิตย์ 4 ทุ่มครึ่งที่แอนฟิลด์
