ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทซูเปอร์ซับ ลงมาเป็นตัวสำรองก่อนกด 2 ประตูพา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แซงชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 คว้าสามคะแนนได้อย่างเหลือเชื่อ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 3 ของฤดูกาล “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดรังเซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือของทีมหงส์แดง วาง โม ซาลาห์, โคดี กักโป และหลุยส์ ดิอาซ เป็นทีเด็ดในแนวรุก ส่วนแผงมิดฟิลด์ใช้ วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และโดมินิค โซบอสซ์ไล คอยเคลื่อนเกม
น.25 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รับบอลคืนหลังจาก โม ซาลาห์ พลาด โดน แอนโธนี กอร์ดอน ฉกไปได้ ก่อนยิงลอดขา อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้าไป
น.29 สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไปทำฟาวล์ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ในจังหวะที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที “หงส์แดง” ต้องเหลือ 10 คน และจบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นนำ 1-0
ครึ่งหลัง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อาศัยความได้เปรียบจากตัวผู้เล่นที่มีมากกว่า ครองบอลเหนือกว่าผู้มาเยือน และพยายามควานหาประตูที่สองแต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบคมพอ
นาทีที่ 81 กลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่เหลือ 10 คน มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ สเวน บ็อทแมน โดนดาร์วิน นูนเญซ ฉกไปได้ ก่อนซัดหนีมือ นิค โป๊ป เข้าไปอย่างสุดสวย
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วช่วงทดเจ็บ น.90+3 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูแซงนำ 2-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันเพิ่ม หมดเวลา 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกไปเก็บชัยเหนือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 คว้าสามคะแนนสำคัญเอาไว้ได้ และถือเป็นการบุกมาเอาชนะ “สาลิกาดง” ถึงเซนต์ เจมส์ พาร์ค 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
