Apple เริ่มจริงจังกับการพัฒนา iPhone เวอร์ชันพับจอได้แล้ว หลังจากมีข่าวลือมาหลายปี ล่าสุดแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมเผยว่าเครื่องต้นแบบได้เข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา พร้อมข้อมูลสเปกที่น่าตื่นเต้นและคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 18 ในปี 2026
iPhone พับจอได้ไม่ใช่แค่ข่าวลือ - เครื่องต้นแบบมีอยู่จริง
หลังจากที่นักวิเคราะห์และสื่อเทคโนโลยีต่างๆ คาดเดามาหลายปีเกี่ยวกับการที่ Apple จะเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้ ล่าสุดเว็บไซต์ DigitalTimes ได้รายงานข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากแหล่งข่าวในสายการผลิต อ้างว่า Apple มี iPhone เวอร์ชันพับจอได้เครื่องต้นแบบที่ใช้งานได้แล้วจริงๆ และได้เข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2025
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple มักใช้เวลาหลายปีและผ่านกระบวนการทดสอบที่เข้มข้น ซึ่งข้อมูลล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า Apple ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญในการพัฒนา iPhone พับจอได้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนอีกครั้ง หลังจากที่ Apple เคยสร้างปรากฏการณ์ iPhone ตั้งแต่ปี 2007
การที่ Apple ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้นั้น ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญมาก เนื่องจากบริษัทมักจะเป็นผู้ติดตามมากกว่าผู้นำในเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เมื่อ Apple เข้ามาแล้ว มักจะทำให้เทคโนโลยีนั้นกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
ขั้นตอนการพัฒนาที่ซับซ้อน - จาก P1 สู่การผลิตจริง
ตามรายงาน iPhone เวอร์ชันพับจอได้ได้เข้าสู่ขั้นตอน P1 (Prototype 1) ซึ่งเป็นการทดสอบในระยะแรกเพื่อสร้างต้นแบบที่สามารถใช้งานได้จริงในกระบวนการผลิต การทดสอบในช่วงนี้จะครอบคลุมทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงการประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตจริง
ขั้นตอน P1 นี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2025 หากผ่านการทดสอบได้อย่างราบรื่น โปรเจกต์จะก้าวต่อไปสู่ขั้นตอน Engineering Verification Test หรือ EVT ซึ่งเป็นการทดสอบทางวิศวกรรมที่สำคัญมาก
การทดสอบ EVT - ขั้นตอนสำคัญก่อนการผลิต
การทดสอบ EVT เป็นกระบวนการที่ Apple ใช้เพื่อตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์สามารถทำงานตามที่ออกแบบไว้หรือไม่ และเพื่อค้นหาข้อบกพร่องต่างๆ ในระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ Apple สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ และปรับปรุงการออกแบบให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ความสำคัญของการทดสอบ EVT อยู่ที่การที่ Apple จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน ความทนทาน และความเสถียรของผลิตภัณฑ์ในสภาวะการใช้งานจริง สำหรับสมาร์ตโฟนพับจอได้ การทดสอบนี้จะสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากกลไกการพับต้องมีความทนทานสูงและสามารถใช้งานได้นับหมื่นครั้งโดยไม่เสียหาย
เป้าหมายการเปิดตัว - กันยายน 2026 พร้อม iPhone 18
หากทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ และไม่มีปัญหาสำคัญใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบ Apple อาจเปิดตัว iPhone เวอร์ชันพับจอได้พร้อมกับ iPhone 18 ในเดือนกันยายน 2026 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ Apple มักจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทุกปี
การเลือกเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 18 แสดงให้เห็นว่า Apple อาจวางแผนให้ iPhone พับจอได้เป็นส่วนหนึ่งของไลน์อัพหลักของบริษัท ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มหรือทดลอง นี่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของ Apple ในเทคโนโลยีพับจอและศักยภาพทางการตลาด
การเลือกจังหวะการเปิดตัวในปี 2026 ก็สมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีพับจอจะพัฒนาไปมากพอที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นแรกๆ เช่น ความทนทานของหน้าจอ ความหนาของตัวเครื่อง และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
สเปกสุดล้ำ - หน้าจอ OLED ขนาด 7.8 นิ้วที่พับได้
ข้อมูลที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นสเปกที่น่าตื่นเต้นของ iPhone พับจอได้ โดยจะติดตั้งแผงหน้าจอ OLED หลักที่สามารถพับได้ขนาด 7.8 นิ้ว ซึ่งผลิตโดย Samsung Display ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหน้าจอ
ขนาดหน้าจอ 7.8 นิ้วนี้จะทำให้ iPhone พับจอได้มีพื้นที่การแสดงผลที่ใหญ่เท่ากับแท็บเล็ตขนาดเล็ก เมื่อกางออก แต่ยังคงสามารถพับเก็บให้มีขนาดเท่าสมาร์ตโฟนทั่วไปได้ นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้งานสมาร์ตโฟน เนื่องจากผู้ใช้จะได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการดูวิดีโอ เล่นเกม ทำงานเอกสาร และใช้แอปพลิเคชันต่างๆ
การออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย - ไม่มีรอยพับ
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ iPhone พับจอได้คือการที่แทบไม่มีรอยพับปรากฏให้เห็นบนหน้าจอ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นแรกๆ ที่ทำให้ประสบการณ์การใช้งานไม่ดีเท่าที่ควร
การที่ Apple สามารถแก้ไขปัญหารอยพับได้ จะทำให้ iPhone พับจอได้มีความเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน และจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภคที่อาจยังลังเลเกี่ยวกับความทนทานของเทคโนโลยีพับจอ
เทคโนโลยีกล้องใต้หน้าจอ
iPhone พับจอได้จะติดตั้งกล้องภายใต้แผงหน้าจอ (Under-Display Camera) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ยังใหม่และไม่ค่อยพบในสมาร์ตโฟนทั่วไป เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้หน้าจอมีความต่อเนื่องและไม่ถูกขัดจังหวะด้วยรูกล้องหรือ notch
การใช้กล้องใต้หน้าจอจะทำให้ iPhone พับจอได้มีการออกแบบที่สวยงามและทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อกางหน้าจอออกเป็นขนาดใหญ่ ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การมองเห็นที่ไม่ถูกขัดจังหวะ
ระบบรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ - Touch ID แทน Face ID
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ iPhone พับจอได้จะติดตั้งปุ่ม Touch ID ที่ด้านข้างตัวเครื่อง แทนที่จะใช้ระบบ Face ID เหมือนใน iPhone รุ่นปัจจุบัน การตัดสินใจนี้อาจเกิดจากข้อจำกัดในการออกแบบหรือความซับซ้อนของการทำให้ Face ID ทำงานได้ดีกับหน้าจอพับได้
Touch ID ที่ด้านข้างจะทำให้การปลดล็อกเครื่องสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ตโฟนอยู่ในสภาพพับ ซึ่งผู้ใช้สามารถปลดล็อกได้ทันทีขณะหยิบเครื่องขึ้นมา
การไม่มีชุดเซ็นเซอร์ Face ID อาจช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและลดต้นทุนการผลิต ทำให้ Apple สามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีพับจอให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
การออกแบบที่บางเฉียบ - ความหนาเพียง 9.0-9.5 มิลลิเมตร
หนึ่งในความท้าทายหลักของสมาร์ตโฟนพับจอได้คือความหนาของตัวเครื่องเมื่อพับเข้าหากัน ซึ่งมักจะหนากว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปมาก แต่ Apple ดูเหมือนจะแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยแหล่งข่าวคาดว่า iPhone พับจอได้จะมีความหนาเพียง 9.0-9.5 มิลลิเมตรเมื่อพับเข้าหากัน
ความบางนี้จะทำให้ iPhone พับจอได้กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนพับจอได้ที่มีความบางที่สุดในตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพาและทำให้รู้สึกเหมือนใช้สมาร์ตโฟนทั่วไปมากขึ้น
วัสดุพรีเมียม - ไทเทเนียมอัลลอย
iPhone พับจอได้คาดว่าจะผลิตด้วยวัสดุไทเทเนียมอัลลอย ซึ่งเป็นวัสดุที่ Apple เพิ่งเริ่มใช้ใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ไทเทเนียมมีข้อดีคือมีความแข็งแรงสูงแต่มีน้ำหนักเบา และมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนที่ดีเยี่ยม
การใช้ไทเทเนียมจะช่วยให้ iPhone พับจอได้มีความทนทานสูงและน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสมาร์ตโฟนพับจอได้ที่ต้องมีกลไกการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน
บานพับโลหะเหลว - เทคโนโลยีล้ำสมัย
ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของสมาร์ตโฟนพับจอได้คือบานพับ และ Apple ดูเหมือนจะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการผลิตบานพับจากวัสดุโลหะเหลว (Liquid Metal) เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกลไกพับหน้าจอ
โลหะเหลวเป็นเทคโนโลยีที่ Apple ได้จดสิทธิบัตรไว้และใช้ในผลิตภัณฑ์บางรุ่น วัสดุนี้มีความแข็งแรงสูงและสามารถขึ้นรูปได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในกลไกที่ต้องการความทนทานสูง
การใช้บานพับโลหะเหลวจะช่วยให้ iPhone พับจอได้สามารถรับการใช้งานพับ-กางได้นับหมื่นครั้งโดยไม่เสียหาย และยังช่วยให้การเคลื่อนไหวเรียบเนียนและแม่นยำ
ราคาระดับพรีเมียม - 68,000-74,500 บาท
ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบที่ซับซ้อน iPhone พับจอได้คาดว่าจะมีราคาในระดับพรีเมียมสูง โดยคาดการณ์ว่าจะมีราคาประมาณ 2,100-2,300 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 68,000-74,500 บาท
ราคานี้แม้จะสูง แต่ก็อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่และการออกแบบที่ซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นอื่นๆ ในตลาดที่มีราคาในระดับใกล้เคียงกัน
สำหรับผู้บริโภคไทย ราคานี้อาจถือว่าสูงมาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัยและประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่าง อาจยังคงเป็นที่น่าสนใจ
ผลกระทบต่อตลาดสมาร์ตโฟน
การเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้ของ Apple จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรม เนื่องจาก Apple มีฐานลูกค้าที่ซื่อสัตย์และมีอิทธิพลต่อเทรนด์เทคโนโลยี การที่ Apple เปิดตัว iPhone พับจอได้จะช่วยเพิ่มความนิยมของสมาร์ตโฟนพับจอได้ในวงกว้าง
ผู้ผลิตอื่นๆ ที่เข้าสู่ตลาดนี้ก่อน Apple เช่น Samsung, Huawei, และ Xiaomi อาจต้องปรับกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นเพื่อแข่งขันกับ Apple ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในระยะยาว
การเข้ามาของ Apple ยังอาจช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นแรกๆ เช่น ปัญหาความทนทาน การออกแบบซอฟต์แวร์ และประสบการณ์การใช้งาน
iPad พับจอได้ถูกระงับชั่วคราว
น่าสนใจที่รายงานเดียวกันนี้ยังเผยว่า Apple ได้สั่งระงับการพัฒนา iPad เวอร์ชันพับจอได้ชั่วคราว เนื่องจากพบปัญหาในการผลิตหลายด้าน ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับไม่สูงเท่าไร
การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่า Apple ใช้แนวทางที่ระมัดระวังในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงก่อน ซึ่งในกรณีนี้คือ iPhone พับจอได้ที่มีตลาดเป้าหมายที่ชัดเจนกว่า
การระงับโปรเจกต์ iPad พับจอได้ยังอาจเป็นการจัดสรรทรัพยากรให้กับการพัฒนา iPhone พับจอได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์แรกจะออกมาในคุณภาพที่ดีที่สุด
ความท้าทายที่ Apple ต้องเผชิญ
แม้ว่า iPhone พับจอได้จะมีศักยภาพมาก แต่ Apple ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การรับประกันความทนทานของหน้าจอพับได้ การออกแบบซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งแบบพับและกาง และการจัดการกับความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงมาก
การแข่งขันในตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้ก็เริ่มดุเดือดขึ้น โดยผู้ผลิตอื่นๆ ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีและปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง Apple จึงต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของตนจะต้องโดดเด่นกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Apple ยังต้องพิจารณาเรื่องราคาและการตอบรับของตลาด เนื่องจากสมาร์ตโฟนพับจอได้ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างใหม่และผู้บริโภคอาจยังลังเลเกี่ยวกับการลงทุนในเทคโนโลยีนี้
อนาคตของสมาร์ตโฟนพับจอได้
การที่ Apple เข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนพับจอได้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม และอาจทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟนในอนาคต เช่นเดียวกับที่ Apple เคยทำให้หน้าจอสัมผัสกลายเป็นมาตรฐานของสมาร์ตโฟน
ความสำเร็จของ iPhone พับจอได้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความทนทานของผลิตภัณฑ์ ประสบการณ์การใช้งาน ราคา และการตอบรับของผู้บริโภค หาก Apple สามารถทำได้สำเร็จ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตอื่นๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ในทิศทางเดียวกัน
ในระยะยาว เทคโนโลยีพับจออาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต แต่อาจขยายไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น แล็ปท็อป นาฬิกาอัจฉริยะ หรือแม้กระทั่งทีวี
บทสรุป - การปฏิวัติครั้งใหม่ของ Apple
การที่ Apple กำลังพัฒนา iPhone พับจอได้และได้เข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบแล้วนั้น ถือเป็นข่าวใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างมาก ด้วยสเปกที่น่าตื่นเต้น การออกแบบที่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนแปลงการใช้งานสมาร์ตโฟนไปตลกทกาล
หากทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ผู้บริโภคจะได้เห็น iPhone พับจอได้ในปี 2026 ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของสมาร์ตโฟน แม้ว่าจะมีความท้าทายหลายประการที่ Apple ต้องเผชิญ แต่ด้วยประวัติการณ์ที่ยาวนานในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้มีความน่าเชื่อถือว่า iPhone พับจอได้จะสามารถประสบความสำเร็จได้
สำหรับผู้บริโภคที่สนใจ การรอคอยอย่างใจเย็นจนถึงปี 2026 และติดตามข่าวสารพัฒนาการต่างๆ จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากนี่อาจเป็นการปฏิวัติครั้งใหม่ของ Apple ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานสมาร์ตโฟนของเราไปตลอดกาล