บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความศรัทธาในวันที่ 12 เมษายน 2568 ณ วัดพิบูลสัณหธรรม ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อทางวัดได้จัดพิธีสำคัญในการยกยอดเมรุขึ้นประดิษฐานบนยอดบุษบกเมรุ โดยมีพระมหาญาณันธร อธิปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพิบูลสัณหธรรม เลขานุการเจ้าคณะตำบลสุรศักดิ์ เขต 2 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมในงานพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้
พิธียกยอดเมรุอันเป็นมงคล
การยกยอดเมรุขึ้นประดิษฐานบนยอดบุษบกเมรุถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการก่อสร้างเมรุ นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างแล้ว ยังเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาอีกด้วย พิธีกรรมนี้เป็นการบ่งบอกให้ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ได้ทราบถึงสถานะของการก่อสร้างเมรุที่กำลังดำเนินไปด้วยดี
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความศรัทธาและความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ประชาชนจำนวนมากต่างพร้อมใจกันมาร่วมในพิธีกรรมอันสำคัญนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับชุมชนและพุทธศาสนิกชน
ประทัด 1,000 นัด สร้างความตื่นเต้นให้คอหวย
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการยกยอดเมรุ ทางวัดได้มีการจุดประทัดจำนวนมากถึง 1,000 นัด เสียงประทัดดังสนั่นต่อเนื่องยาวนานหลายนาที สร้างความตื่นเต้นและการลุ้นระทึกให้กับบรรดาคอหวยที่มาร่วมงาน ทันทีที่เสียงประทัดสิ้นสุดลง ผู้คนต่างกรูกันเข้าไปส่องดูเลขหางประทัดอย่างรวดเร็ว
เลขที่ปรากฏจากหางประทัดในครั้งนี้ได้แก่ เลข 3 ตัว คือ 145 และเลขท้าย 2 ตัว คือ 28 ทันทีที่เลขปรากฏ ประชาชนต่างพากันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นหลักฐานและนำไปเสี่ยงโชคในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 เมษายน 2568 ที่จะถึงนี้
ความเชื่อเรื่องเลขหางประทัดเป็นความเชื่อที่มีมาช้านานในสังคมไทย โดยเฉพาะในงานพิธีสำคัญทางศาสนาหรืองานมงคลต่างๆ ที่มีการจุดประทัด คอหวยมักจะให้ความสนใจกับเลขที่ปรากฏบนเศษซากประทัดที่จุดแล้ว ด้วยความเชื่อว่าเลขเหล่านี้อาจจะนำโชคลาภมาสู่ตนได้
ความคืบหน้าของการก่อสร้างเมรุ
พระมหาญาณันธร อธิปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพิบูลสัณหธรรม ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างเมรุว่า ขณะนี้การก่อสร้างเมรุยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ แต่ทางวัดได้ดำเนินการก่อสร้างมาแล้วกว่า 60% การสร้างเมรุนี้ถือเป็นการสร้างสาธารณประโยชน์อันใหญ่หลวงต่อพุทธศาสนิกชนในพื้นที่
เมรุที่กำลังก่อสร้างนี้จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการประกอบพิธีฌาปนกิจศพของประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญคือ ทางวัดมีนโยบายในการจัดพิธีฌาปนกิจศพให้ฟรีสำหรับผู้ยากไร้ ผู้ยากจน ผู้ขัดสน และผู้ไร้ญาติขาดมิตร โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
การให้บริการฟรีแก่ผู้ยากไร้
ทางวัดพิบูลสัณหธรรมมีนโยบายชัดเจนในการให้บริการฟรีแก่ผู้ยากไร้และผู้ขัดสน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ในทุกขั้นตอนของพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสวดอภิธรรม การทำบุญเจ็ดวัน หรือการทำบุญอัฐิ ทางวัดจะไม่เก็บปัจจัยแม้แต่บาทเดียว
นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์อันดีงามของทางวัดที่ต้องการช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้ ให้ได้รับการปฏิบัติอย่างสมศักดิ์ศรีแม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต อีกทั้งยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีฐานะยากจน
ประโยชน์ของเมรุที่กำลังก่อสร้าง
พระมหาญาณันธรได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเมรุหลังนี้เสร็จไวก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อญาติโยมในการฌาปนกิจสังขารผู้วายชนม์ ทั้งบุคคลทั่วไปและผู้อนาถา ผู้ไร้ญาติขาดมิตร
การมีเมรุที่ได้มาตรฐานและมีความพร้อมในการให้บริการจะช่วยให้การประกอบพิธีกรรมเป็นไปอย่างสมเกียรติและสง่างาม อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือสังคมในการจัดการกับผู้เสียชีวิตที่ไม่มีญาติหรือผู้ดูแล ให้ได้รับการปฏิบัติอย่างสมศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายของชีวิต
การเชิญชวนร่วมทำบุญ
ในโอกาสนี้ ทางวัดพิบูลสัณหธรรมได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญในการก่อสร้างเมรุ เพื่อเป็นการสร้างสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบุญได้ที่สังฆทานศาลามหาทรัพย์ (ศาลาขาว) ภายในวัด หรือบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ทางบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วัดพิบูลสัณหธรรม เลขที่บัญชี 273-0-31761-9 หรือสแกน QR Code ที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้
สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ พระมหาญาณันธร เจ้าอาวาส หมายเลขโทรศัพท์ 085-250-8774 หรือ พระวรสิทธิ์ เลขานุการ หมายเลขโทรศัพท์ 094-346-7396
สรุป
พิธียกยอดเมรุขึ้นประดิษฐานบนยอดบุษบกเมรุที่วัดพิบูลสัณหธรรมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างเมรุแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนได้มาร่วมทำบุญร่วมกัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดาคอหวยที่มาร่วมงานด้วยการจุดประทัด 1,000 นัด ซึ่งปรากฏเลขหางประทัด 145 และ 28 ให้ผู้มีความเชื่อได้นำไปเสี่ยงโชคในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 เมษายน 2568 ที่จะถึงนี้
การก่อสร้างเมรุที่วัดพิบูลสัณหธรรมนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับสังคม โดยเฉพาะการให้บริการฟรีแก่ผู้ยากไร้และผู้ขัดสน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดของพระพุทธศาสนาในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และการมีเมตตาธรรมต่อผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคม