Guestpost โฟสฟรี ถ้าคุณมีสาระดีๆ ที่นี่เราให้คุณได้แบ่งปัน

Notifications
Clear all

ส่องหนังสือ 'The Hunger Games' เล่มใหม่ ภาค 'Sunrise on the Reaping'

1 Posts
1 Users
0 Reactions
43 Views
supachai
(@supachai)
Posts: 5299
Illustrious Member
Topic starter
 

เปิดตำนานใหม่ของพาเนม ผ่านสายตาของเฮย์มิตช์ เอเบอร์นาธี

สวัสดีชาวพาเนมและแฟนคลับ The Hunger Games ทั้งหลาย! คงจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกดิสโทเปียสุดโหดร้ายแห่งนี้ เมื่อซูซาน คอลลินส์ (Suzanne Collins) ผู้เขียนเบสต์เซลเลอร์ระดับโลกได้ประกาศการกลับมาของจักรวาล Hunger Games อีกครั้ง ผ่านหนังสือเล่มใหม่ที่มีชื่อว่า 'Sunrise on the Reaping' ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 18 มีนาคม 2025 นี้

แต่คราวนี้ เรื่องราวจะไม่ได้เล่าผ่านสายตาของ "แคตนิส เอฟเวอร์ดีน" (Katniss Everdeen) นักรบสาวผู้กล้าหาญที่เราคุ้นเคย หากแต่เป็นการย้อนเวลากลับไปเล่าเรื่องราวของ "เฮย์มิตช์ เอเบอร์นาธี" (Haymitch Abernathy) เมนเทอร์ขี้เมาที่แสนเฉียบแหลม ผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะของแคตนิสและพีต้า ตัวละครที่ทั้งสร้างเสียงหัวเราะและความประทับใจให้กับผู้อ่านและผู้ชมทั่วโลก

ย้อนอดีต 24 ปี สู่ Quarter Quell ครั้งที่ 2

'Sunrise on the Reaping' จะพาเราย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาคแรก สู่การแข่งขันฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 50 หรือที่รู้จักกันในนาม "Quarter Quell" ครั้งที่ 2 สำหรับผู้ที่จำเนื้อเรื่องในภาค 'Catching Fire' ได้ จะทราบว่าทุกๆ 25 ปี แคปิตอลจะจัดการแข่งขันพิเศษที่มีกติกาแตกต่างและโหดร้ายยิ่งกว่าการแข่งขันปกติ เพื่อตอกย้ำอำนาจและการควบคุมเหนือเขตต่างๆ

Quarter Quell ครั้งที่ 2 นี้ ถูกขนานนามว่าเป็นการแข่งขันที่โหดร้ายและนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพาเนม โดยมีการเปลี่ยนกติกาให้แต่ละเขตต้องส่งเครื่องบรรณาการเป็นสองเท่า นั่นหมายความว่าแทนที่จะเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง กลายเป็นชายสองคนและหญิงสองคนจากแต่ละเขต รวมทั้งสิ้น 48 คนที่ต้องเข้าไปฆ่ากันเองในสังเวียนความตาย

และในการจับสลากครั้งนั้นเอง ที่ชื่อของ "เฮย์มิตช์ เอเบอร์นาธี" หนุ่มวัย 16 ปีจากเขต 12 ได้ถูกเรียกขานให้เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการ พร้อมกับเด็กอีกสามคนจากเขตเดียวกัน เขาต้องเผชิญหน้ากับนักล่าที่แข็งแกร่งจากเขตอาชีพ และความท้าทายมากมายที่แคปิตอลเตรียมไว้ในสังเวียน

เบื้องลึกของเฮย์มิตช์ และรากเหง้าแห่งความบาดแผล

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้ คือการเปิดเผยภูมิหลังและเรื่องราวของเฮย์มิตช์ ว่าอะไรคือเหตุการณ์ที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นชายขี้เมาที่นอนกอดมีดทุกคืนในภาคหลัก

เราจะได้เห็นเฮย์มิตช์ในวัยหนุ่ม ก่อนที่ความขมขื่นและความสิ้นหวังจะเข้าครอบงำจิตใจ ได้รู้จักครอบครัวของเขา ความสัมพันธ์กับคนรัก และมิตรภาพที่เขามีก่อนจะถูกส่งเข้าไปในสังเวียน เราจะได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้ชนะที่แทบไม่เคยมีความสุขกับชัยชนะของตัวเอง และทำไมเขาถึงจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งการดื่มสุราเพื่อลืมเลือนอดีตอันเจ็บปวด

นอกจากนี้ เรื่องราวยังจะเผยให้เห็นถึงชัยชนะอันเหนือความคาดหมายของเฮย์มิตช์ ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เขารอดชีวิตกลับมา แต่ยังสร้างความไม่พอใจให้กับประธานาธิบดีสโนว์ในเวลานั้น เป็นรอยร้าวแรกที่นำไปสู่การปฏิวัติในภายหลัง

แรงบันดาลใจและปรัชญาเบื้องหลังเรื่องราว

ซูซาน คอลลินส์ ได้เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า 'Sunrise on the Reaping' ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง "เดวิด ฮูม" (David Hume) ที่กล่าวถึง "ความง่ายดายที่คนจำนวนมากถูกปกครองโดยคนเพียงไม่กี่คน" ซึ่งเป็นประเด็นที่ปรากฏตลอดทั้งซีรีส์ Hunger Games

คอลลินส์ยังกล่าวว่า หนังสือเล่มนี้จะสำรวจลึกลงไปในเรื่องการใช้โฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) การควบคุมสื่อ และอำนาจของผู้ที่สามารถควบคุมเรื่องราวที่ถูกนำเสนอสู่สาธารณะ โดยเธอเน้นย้ำว่าในยุคปัจจุบัน คำถามที่ว่า "อะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ" กลายเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการตระหนักและจัดการมากขึ้นเรื่อยๆ

แนวคิดเหล่านี้จะถูกสอดแทรกผ่านการแข่งขัน Quarter Quell ที่ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบความอยู่รอดทางกายภาพ แต่ยังเป็นการทดสอบความอยู่รอดทางจิตใจของเฮย์มิตช์และเครื่องบรรณาการคนอื่นๆ ท่ามกลางกลไกการควบคุมและการโฆษณาชวนเชื่อของแคปิตอล

จากหน้ากระดาษสู่จอเงิน

สำหรับแฟนคลับภาพยนตร์ไม่ต้องรอนาน เพราะสตูดิโอไลออนเกตส์ (Lionsgate) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาพยนตร์ชุด The Hunger Games ทั้งหมด ได้ประกาศวันฉายภาพยนตร์จากหนังสือเล่มนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2026

แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศรายชื่อนักแสดงที่จะมารับบทเป็นเฮย์มิตช์วัยหนุ่ม แต่ก็มีการคาดการณ์และเสนอชื่อจากแฟนๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet), แบรรี่ คีโอแกน (Barry Keoghan) หรือแม้กระทั่งทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ซึ่งต่างก็มีโอกาสที่จะสวมบทบาทนี้ได้อย่างน่าสนใจ

โลกแห่งพาเนมที่ขยายกว้างขึ้น

'Sunrise on the Reaping' ไม่เพียงแต่จะเป็นการเปิดเผยอดีตของเฮย์มิตช์เท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายจักรวาลของ Hunger Games ให้กว้างขึ้น ลึกขึ้น และมีมิติมากขึ้น เราจะได้เห็นสภาพสังคมของพาเนมในช่วงเวลาที่ต่างออกไป ความสัมพันธ์ระหว่างเขตต่างๆ และแคปิตอล ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่

นอกจากนี้ เรายังอาจจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคยในวัยหนุ่มสาว อย่างเช่น เอฟฟี่ ทรินเก็ต (Effie Trinket), ซีซาเรีย (Caesar Flickerman) หรือแม้กระทั่งประธานาธิบดีคอริโอลานัส สโนว์ (Coriolanus Snow) ที่เราได้รู้จักจากหนังสือภาคก่อนหน้าอย่าง 'The Ballad of Songbirds and Snakes'

ความคาดหวังและการรอคอย

การกลับมาของซีรีส์ The Hunger Games ผ่านหนังสือเล่มใหม่นี้ สร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังให้กับแฟนๆ ทั่วโลก เรื่องราวของเฮย์มิตช์ที่หลายคนรอคอยจะได้รับการเปิดเผย เติมเต็มช่องว่างในจิ๊กซอว์ของจักรวาลพาเนมที่ซูซาน คอลลินส์ได้สร้างขึ้นอย่างประณีต

ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร 'Sunrise on the Reaping' ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่าน พร้อมทั้งสอดแทรกข้อคิดและคำถามทางสังคมและการเมืองที่ทำให้เราต้องหวนกลับมาพิจารณาโลกที่เราอาศัยอยู่ เช่นเดียวกับที่ภาคก่อนๆ ได้ทำไว้อย่างยอดเยี่ยม

หากคุณเป็นแฟนของซีรีส์นี้ อย่าลืมจองหนังสือล่วงหน้าเพื่อเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้อ่านเรื่องราวของเฮย์มิตช์เป็นคนแรกๆ และร่วมกันคาดเดาว่าใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการรับบทเป็นเฮย์มิตช์ เอเบอร์นาธี วัยหนุ่มบนจอเงิน

และเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2025 มาถึง ขอให้ทุกคนโชคดี และขอให้โอกาสเข้าข้างคุณเสมอ... "May the odds be ever in your favor!"

This topic was modified 2 months ago by supachai
 
Posted : 09/04/2025 10:23 pm
Share: