Guestpost โฟสฟรี ถ้าคุณมีสาระดีๆ ที่นี่เราให้คุณได้แบ่งปัน

จากพ่อค้าเรือเร่ขาย...
 
Notifications
Clear all

จากพ่อค้าเรือเร่ขายปลาทูคลองบางเขน สู่จักรพรรดิยาขมเม็ดตราใบห่อ ครบรอบ 5 ทศวรรษแห่งการดูแลสุขภาพคนไทย

1 Posts
1 Users
0 Reactions
24 Views
supachai
(@supachai)
Posts: 5484
Illustrious Member
Topic starter
 

เมื่อพูดถึงยาขมเม็ดตราใบห่อ แทบไม่มีครอบครัวไทยใดที่ไม่เคยได้ยินหรือใช้สินค้าจากแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา ยาขมเม็ดตราใบห่อได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย โดยไม่ต้องพึ่งพางานวิจัยในห้องปฏิบัติการสมัยใหม่ แต่ได้รับการรับรองคุณภาพจากการใช้งานจริงของผู้บริโภคนับล้านคนทั่วประเทศ

วันนี้ ผู้จัดการออนไลน์มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษกับ นายอิศรา อัคคะประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด ทายาทรุ่นที่สองที่เข้ามารับช่วงต่อแบรนด์ดังจากบิดา เพื่อเล่าถึงเส้นทางอันยาวนานและเต็มไปด้วยความท้าทายในการสร้างจักรวรรดิสมุนไพรไทยแห่งนี้

จุดเริ่มต้นจากความยากจน สู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่

เรื่องราวของยาขมเม็ดตราใบห่อเริ่มต้นจากชีวิตที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยมี นายประสิทธิ์ อัคคะประชา บิดาของนายอิศรา เป็นผู้วางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจแห่งนี้

"คุณพ่อมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน" นายอิศราเล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ "เดิมทีท่านอาศัยอยู่ริมคลองบางเขน มีอาชีพเป็นพ่อค้าเรือเร่ที่พายเรือไปขายของตามแคว้นต่างๆ สินค้าที่ท่านขายมีทุกอย่าง เหมือนเป็นห้างสรรพสินค้าเคลื่อนที่ในยุคนั้น"

สินค้าที่นายประสิทธิ์ขายในช่วงแรก ประกอบด้วยปลาทู หอยแมลงภู่ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของผู้คนในชุมชนริมน้ำ การค้าขายแบบเรือเร่นี้ไม่เพียงแต่เป็นอาชีพที่หาเลี้ยงชีพ แต่ยังเป็นการเรียนรู้ธุรกิจและความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

จุดเปลี่ยนสำคัญ: การก้าวขึ้นสู่บกแห่งความสำเร็จ

หลังจากใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าเรือเร่มาหลายปี นายประสิทธิ์ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิต โดยเลิกขายของในเรือและมุ่งมั่นที่จะปักหลักเปิดร้านค้าบนบก เป้าหมายของท่านคือย่านใจกลางเมือง โดยเฉพาะย่านจักรวรรดิ์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นศูนย์กลางการค้าวัตถุดิบสำหรับการผลิตยาสมุนไพร

ย่านจักรวรรดิ์ในยุคนั้น เป็นแหล่งรวมตัวของผู้ประกอบการด้านสมุนไพรหลายแบรนด์ดัง หลายธุรกิจที่ปัจจุบันกลายเป็นแบรนด์ระดับประเทศก็ได้เริ่มต้นจากพื้นที่แห่งนี้ สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีความฝันจะประกอบธุรกิจด้านสมุนไพร

"ตอนแรกที่พ่อเข้ามาในย่านนี้ ท่านเริ่มต้นในฐานะลูกจ้าง" นายอิศราอธิบาย "การเป็นลูกจ้างก่อนทำให้ท่านได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่า เรียนรู้เทคนิคการทำงาน การจัดการธุรกิจ และที่สำคัญคือการเข้าใจตลาดสมุนไพรอย่างลึกซึ้ง"

หลังจากสั่งสมประสบการณ์ได้ระยะหนึ่ง นายประสิทธิ์จึงตัดสินใจเปิดร้านสมุนไพรของตัวเอง ภายใต้ชื่อ "ง้วน เฮง จั่น" ซึ่งปัจจุบันร้านดังกล่าวยังคงดำเนินกิจการอยู่ และได้กลายเป็นผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรให้กับผู้ผลิตแบรนด์ดังหลายราย รวมถึงยาสตรีเพ็ญภาคและแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

การปฏิวัติวงการสมุนไพรไทย: นวัตกรรมการอัดเม็ด

ประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้ นายประสิทธิ์สามารถคิดค้นสูตรยาสมุนไพรตราใบห่อขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้แตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งอื่นๆ คือ การนำเสนอนวัตกรรมการอัดเม็ด ที่ในขณะนั้นถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการสมุนไพรไทยอย่างแท้จริง

"สาเหตุที่พ่อคิดค้นนวัตกรรมการอัดเม็ดขึ้นมา เป็นเพราะปัญหาของการรับประทานสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่ลำบากและไม่สะดวก" นายอิศราอธิบายถึงจุดกำเนิดของไอเดียสำคัญนี้ "ในสมัยนั้น ตราใบห่อเป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีการอัดเม็ดมาใช้กับยาสมุนไพร ซึ่งทำให้การรับประทานง่ายขึ้นมาก"

การพัฒนาเทคโนโลยีการอัดเม็ด ในยุคนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการศึกษาค้นคว้า การทดลอง และการลงทุนด้านเครื่องจักรที่ไม่น้อย แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นความต้องการของตลาด นายประสิทธิ์จึงกล้าที่จะเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ปรัชญาการทำธุรกิจ: คุณภาพดี ราคาไม่แพง

สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการหนึ่งของ ยาขมเม็ดตราใบห่อ คือการรักษาราคาที่เป็นธรรมและเข้าถึงได้สำหรับคนทุกระดับ ในช่วงแรกๆ คุณพ่อขายยาขมเม็ดในราคาห่อละ 2-3 บาท และรักษาราคานี้มาเป็นเวลาหลายสิบปี

"เป้าหมายหลักของคุณพ่อไม่ใช่การหากำไรสูงสุด แต่คือการทำสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาไม่แพง" นายอิศรากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ "ท่านต้องการให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงยาสมุนไพรทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีได้"

ปรัชญาการทำธุรกิจนี้ ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยปัจจุบันยาขมเม็ดตราใบห่อมีราคาเพียงซองละ 7 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้สำหรับคนทุกระดับรายได้ การรักษาราคาในระดับนี้ท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาหลักการเดิมของผู้ก่อตั้ง

การขยายสายผลิตภัณฑ์: ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย

ปัจจุบัน บริษัทห้างขายยาตราใบห่อ ได้พัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก 2 แบรนด์ คือ "ตราใบห่อ" และ "ตราใบแก้ว" ซึ่งเป็นยาระบายอ่อนสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย

นอกจากยาขมเม็ดและยาระบายแล้ว บริษัทยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ยาดม ยาหม่อง ชาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์ขมิ้นชัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการด้านสุขภาพที่หลากหลายของผู้บริโภค

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ คือการเปลี่ยนรูปแบบจากเม็ดมาเป็นแคปซูล เพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ชอบหรือกลัวรสขม "การทำเป็นแคปซูลช่วยให้ผู้ที่ไม่ชื่นชอบรสขมสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากสมุนไพรเท่าเดิม" นายอิศราอธิบาย

ผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นนำ: บทบาทสำคัญในช่วงโควิด-19

นอกจากการผลิตยาสมุนไพรแล้ว บริษัทห้างขายยาตราใบห่อ ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรรายใหญ่ โดยเฉพาะในย่านจักรวรรดิ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าสมุนไพรของประเทศ

"เราเป็นแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรมาตั้งแต่แรก ก่อนที่จะมาทำยาขมเสียอีก" นายอิศราเล่า "ดังนั้นวัตถุดิบของเราจึงสั่งตรงมาจากเกษตรกร ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ"

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคง โดยได้ผลิตและจำหน่ายฟ้าทะลายโจรในรูปแบบแคปซูล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

"ในช่วงที่ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดและราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เรายังคงสามารถจัดหาและจำหน่ายให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง" นายอิศรากล่าวถึงความภาคภูมิใจในการรักษาเสถียรภาพของตลาด "นี่เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกรและการวางแผนการจัดการสต็อกที่มีประสิทธิภาพ"

การเปลี่ยนผ่านสู่รุ่นใหม่: ความท้าทายและโอกาส

เมื่อ 8 ปีที่แล้ว นายประสิทธิ์ อัคคะประชา ผู้ก่อตั้งได้เสียชีวิตลง ทำให้ นายอิศรา ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 27 ปี ต้องเข้ามารับช่วงต่อกิจการครอบครัว การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกการสื่อสารกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

"การเข้ามารับช่วงดูแลกิจการในวัยหนุ่ม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกสื่อการตลาด เป็นความท้าทายที่ไม่เล็ก" นายอิศราเล่าถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก "สื่อการตลาดเปลี่ยนจากทีวีดิจิทัลเข้าสู่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งยูทูบ เฟซบุ๊ก และ TikTok ซึ่งกลายเป็นช่องทางหลักในการรับข่าวสารของคนไทย"

ความเป็นคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ เพราะทำให้นายอิศราสามารถเข้าใจและปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างรวดเร็ว "เราได้ใช้ความเป็นคนรุ่นใหม่ในการวางแผนการตลาดแบบใหม่ ปัดฝุ่นแบรนด์ตราใบห่อให้แจ้งเกิดใหม่ในโลกโซเชียลมีเดีย"

วิวัฒนาการการสื่อสาร: จากรถเร่สู่โลกดิจิทัล

การทำการตลาดของยาขมเม็ดตราใบห่อ มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ในอดีตแบรนด์นี้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการทำโฆษณาที่สร้างสรรค์และติดหูจนคนไทยจดจำได้แม้เวลาผ่านไปนานแล้ว

"ในยุคของคุณพ่อ การโฆษณาเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ส่วนตัว" นายอิศราเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ "คุณพ่อรู้จักกับประจวบ จำปาทอง เจ้าของกวนอิมและนักร้องดัง เวลาไปฉายหนังเร่หรือไปร้องเพลงที่ไหน ก็จะมีการโฆษณายาขมเม็ดตราใบห่อไปด้วย"

เวทีมวย เป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่สำคัญในอดีตและยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน สนามมวยหลายแห่งได้รับการสนับสนุนจากยาขมเม็ดตราใบห่อ ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

การปรับตัวสู่ยุกดิจิทัล เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่นายอิศรานำมาใช้ "ปัจจุบันเราลงทุนกับสื่อโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยเฉพาะ TikTok ที่เป็นที่นิยมของลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของเรา"

การขยายสู่ตลาดโลก: โอกาสใหม่ของสมุนไพรไทย

หนึ่งในวิสัยทัศน์ที่สำคัญของ นายอิศรา คือการนำสมุนไพรไทยไปสู่ตลาดสากล โดยเฉพาะในช่วงที่โลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและคนหันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมากขึ้น

"ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยได้รับรู้วัฒนธรรมการกินและการใช้ชีวิตของคนไทย รวมถึงการรู้จักสมุนไพรไทยจากการเข้าไปใช้บริการในร้านขายยา" นายอิศราอธิบายถึงโอกาสการขยายตลาด

สถานการณ์โควิด-19 กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดโอกาสให้สมุนไพรไทย โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร ได้รับการยอมรับในระดับสากล "เราได้มีโอกาสไปเปิดตลาดที่ประเทศรัสเซีย และนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและยาขมเม็ดตราใบห่อเข้าไปจำหน่าย ได้รับการตอบรับที่ดีมาก"

ปัจจุบันบริษัท ได้ขยายการจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆ ในกลุ่ม AEC และมีแผนการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ อีกมากมาย โดยใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่สร้างขึ้นมาในประเทศมากว่า 5 ทศวรรษ

มุมมองต่ออนาคตสมุนไพรไทย: ยั่งยืนและก้าวหน้า

เมื่อถามถึงทิศทางของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในอนาคต นายอิศรา มีมุมมองที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความหวัง

"สมุนไพรไทยเป็นสินค้าที่อยู่คู่กับคนไทยมานานหลายศตวรรษ หลายแบรนด์มีอายุหลายสิบปี และได้รับการยอมรับจากคนไทยผ่านการใช้งานจริงมานานหลายทศวรรษ" เขากล่าว

แม้ว่าในบางช่วงเวลา ยาสมัยใหม่อาจเข้ามาทดแทนยาสมุนไพรในบางกรณี แต่เมื่อสังคมไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ การกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและการรักษาแบบดั้งเดิมกลับเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจมากขึ้น

"ความขมไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ไขเสมอไป เพราะมันคือเอกลักษณ์ที่หลายคนจดจำได้" นายอิศรากล่าวด้วยความมั่นใจ "หลายคนรู้ว่าความขมช่วยดูแลและปรับสมดุลร่างกาย ดังคำโบราณที่ว่า 'หวานเป็นลม ขมเป็นยา'"

บทสรุป: มรดกที่สืบทอดและอนาคตที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง

เส้นทางจากพ่อค้าเรือเร่สู่จักรพรรดิยาขมเม็ดตราใบห่อ เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความอดทน และวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของคนไทย การที่ธุรกิจเล็กๆ ริมคลองบางเขนสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นแบรนด์ระดับประเทศที่มีอายุกว่า 50 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าของสมุนไพรไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ปัจจุบัน แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปมาก เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่หลักการพื้นฐานของการทำธุรกิจที่ นายประสิทธิ์ วางไว้ยังคงเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง นั่นคือการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเข้าถึงได้สำหรับคนทุกระดับ

การที่นายอิศรา สามารถนำแบรนด์ดังแดนสมุนไพรไปสู่ตลาดสากลได้ แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรไทยมีศักยภาพที่จะเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของประเทศในเวทีโลก โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและการใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมากขึ้น

ยาขมเม็ดตราใบห่อ จึงไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาไทย ความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว และความฝันที่สามารถเป็นจริงได้ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่น

ในอนาคต การเติบโตของแบรนด์นี้จะไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและเจ้าของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสมุนไพรไทยในสายตาของโลก และเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในห่วงโซ่อุปทานได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน

สุดท้ายนี้ เรื่องราวของยาขมเม็ดตราใบห่อ เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนไทยทุกคนที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม โดยไม่ลืมรากเหง้าและเอกลักษณ์ที่เป็นของเราเอง การที่ธุรกิจเล็กๆ สามารถเติบโตไปสู่ความสำเร็จระดับประเทศและสากลได้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่อง การรักษาคุณภาพ และการปรับตัวให้ทันสมัย ความฝันใดๆ ก็สามารถเป็นจริงได้

ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความมั่นคงทางธุรกิจ และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ยาขมเม็ดตราใบห่อพร้อมที่จะเดินทางต่อไปในทศวรรษหน้า โดยยังคงรักษาหลักการดั้งเดิมในการผลิตสินค้าคุณภาพดีเพื่อสุขภาพของคนไทยและชาวโลก พร้อมทั้งเป็นตัวแทนของภูมิปัญญาไทยที่น่าภาคภูมิใจในเวทีสากล

This topic was modified 2 months ago by supachai
 
Posted : 02/06/2025 11:35 am
Share: