Guestpost โฟสฟรี ถ้าคุณมีสาระดีๆ ที่นี่เราให้คุณได้แบ่งปัน

Notifications
Clear all

เปิดอันดับความน่าอยู่ 50 เขตกรุงเทพฯ - ใจกลางเมืองครองแชมป์ ชานเมืองรั้งท้าย

1 Posts
1 Users
0 Reactions
27 Views
supachai
(@supachai)
Posts: 5299
Illustrious Member
Topic starter
 

การศึกษาล่าสุดได้เปิดเผยอันดับความน่าอยู่ของทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานคร โดยพบว่าพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างเขตพระนครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเขตที่น่าอยู่ที่สุด ขณะที่เขตชานเมืองอย่างหนองแขมอยู่อันดับสุดท้าย รายงานจาก Bangkok Index 2024 โดย Rocket Media Lab ได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยหลากหลายด้านที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในแต่ละเขต และสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเมืองระหว่างพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกของกรุงเทพฯ

เกณฑ์การประเมินความน่าอยู่ - 4 ด้านสำคัญที่ชี้วัดคุณภาพชีวิต

Bangkok Index ได้กำหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุม 4 ด้านหลัก เพื่อวัดระดับความน่าอยู่ของแต่ละเขตในกรุงเทพมหานคร โดยแต่ละด้านประกอบด้วยปัจจัยย่อยที่สำคัญ ดังนี้

1. ด้านบริการสาธารณะ ประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

  • สาธารณสุข: การเข้าถึงโรงพยาบาล คลินิก และบริการทางการแพทย์
  • ขนส่งสาธารณะ: ความครอบคลุมของระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า รถประจำทาง และทางเลือกในการเดินทาง
  • การศึกษา: จำนวนและคุณภาพของสถาบันการศึกษาในพื้นที่
  • คุณภาพชีวิต: สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

2. ด้านเศรษฐกิจ พิจารณาจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  • งบประมาณรายเขต: การจัดสรรงบประมาณจากกรุงเทพมหานครให้แต่ละเขต
  • รายได้จากการจัดเก็บภาษี: ประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของแต่ละเขต
  • การจดทะเบียนธุรกิจ: จำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนในพื้นที่ซึ่งสะท้อนความมีชีวิตชีวาทางเศรษฐกิจ
  • สถานประกอบการอาหาร: จำนวนร้านอาหารและความหลากหลายของบริการด้านอาหาร

3. ด้านสวัสดิภาพ วัดจากความปลอดภัยใน 4 มิติ ได้แก่

  • อัคคีภัย: ความเสี่ยงและการป้องกันเหตุเพลิงไหม้
  • อุทกภัย: พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและระบบระบายน้ำ
  • จุดเสี่ยงอาชญากรรม: สถิติอาชญากรรมและความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ
  • อุบัติเหตุบนท้องถนน: สถิติอุบัติเหตุจราจรและความปลอดภัยทางถนน

4. ด้านสิ่งแวดล้อม ประเมินจาก 4 ปัจจัย ได้แก่

  • การจัดการขยะ: ประสิทธิภาพในการเก็บและกำจัดขยะ
  • การบำบัดน้ำเสีย: คุณภาพน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย
  • คุณภาพอากาศ: ระดับมลพิษทางอากาศและการจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5
  • พื้นที่สวนสาธารณะ: สัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากร

อันดับเขตที่น่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพฯ - 'พระนคร' ครองแชมป์ด้วยคะแนนสูงสุด

จากผลการจัดอันดับภาพรวมความน่าอยู่ใน Bangkok Index 2024 ได้มีการจัดลำดับ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร โดยให้คะแนนตั้งแต่ 1-50 ตามลำดับความน่าอยู่ (เขตที่มีลำดับเท่ากันจะได้คะแนนเท่ากัน) ปรากฏว่า 10 อันดับแรกของเขตที่น่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพฯ ได้แก่:

  1. เขตพระนคร - 35.08 คะแนน
  2. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย - 35.05 คะแนน
  3. เขตปทุมวัน - 34.76 คะแนน
  4. เขตสัมพันธวงศ์ - 33.42 คะแนน
  5. เขตราชเทวี - 32.40 คะแนน
  6. เขตสาทร - 30.66 คะแนน
  7. เขตบางรัก - 30.43 คะแนน
  8. เขตดุสิต - 30.39 คะแนน
  9. เขตห้วยขวาง - 30.19 คะแนน
  10. เขตพญาไท - 30.04 คะแนน

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เขตพระนครซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเขตที่น่าอยู่ที่สุด ด้วยคะแนน 35.08 คะแนน ตามมาด้วยเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายที่มีคะแนนใกล้เคียงกันมากที่ 35.05 คะแนน และเขตปทุมวันที่ได้ 34.76 คะแนน

10 เขตที่มีคะแนนความน่าอยู่น้อยที่สุด - ชานเมืองประสบปัญหาการพัฒนา

ในขณะเดียวกัน 10 เขตที่มีคะแนนความน่าอยู่น้อยที่สุดตามการจัดอันดับของ Bangkok Index 2024 ได้แก่:

  1. เขตภาษีเจริญ - 20.60 คะแนน
  2. เขตหนองจอก - 20.11 คะแนน
  3. เขตประเวศ - 19.94 คะแนน
  4. เขตวังทองหลาง - 19.81 คะแนน
  5. เขตบางเขน - 19.58 คะแนน
  6. เขตทุ่งครุ - 19.55 คะแนน
  7. เขตบางขุนเทียน - 17.81 คะแนน
  8. เขตสายไหม - 17.47 คะแนน
  9. เขตบางแค - 16.76 คะแนน
  10. เขตหนองแขม - 13.81 คะแนน

เขตหนองแขมได้รับการจัดอันดับให้เป็นเขตที่น่าอยู่น้อยที่สุดด้วยคะแนนเพียง 13.81 คะแนน ซึ่งห่างจากเขตพระนครที่อยู่อันดับหนึ่งถึง 21.27 คะแนน สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเมืองอย่างชัดเจน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าอยู่ - พื้นที่ชั้นในได้เปรียบด้านงบประมาณและบริการ

จากการวิเคราะห์ผลการจัดอันดับของ Bangkok Index 2024 พบแนวโน้มที่น่าสนใจว่า เขตที่ได้คะแนนความน่าอยู่สูงมักกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งมีลักษณะสำคัญดังนี้:

  • เป็นพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
  • ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร
  • มีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ทั้งระบบขนส่งมวลชน สถานพยาบาล และสถาบันการศึกษา
  • มีการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง

ในทางตรงกันข้าม เขตที่ได้คะแนนความน่าอยู่น้อยมักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลางและชั้นนอก ซึ่งประสบปัญหาหลายประการ ได้แก่:

  • ได้รับงบประมาณน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่มักมีมากกว่า
  • ขาดแคลนบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน
  • กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีน้อยกว่า ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ต่ำ
  • เผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยมากกว่า

ความท้าทายในการพัฒนาเมือง - ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเขต

ข้อมูลจาก Bangkok Index 2024 สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการลดช่องว่างระหว่างพื้นที่ชั้นในและชั้นนอก นักวิชาการด้านผังเมืองหลายท่านได้เสนอแนะแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนี้:

  1. การกระจายงบประมาณที่เป็นธรรมมากขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่
  2. การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุมพื้นที่ชานเมืองมากขึ้น
  3. การสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจรองในพื้นที่ชั้นกลางและชั้นนอก เพื่อลดการกระจุกตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ
  4. การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะระบบระบายน้ำและการจัดการขยะ
  5. การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะในเขตชั้นกลางและชั้นนอก

ทั้งนี้ การจัดทำ Bangkok Index นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นภาพรวมของปัญหาและความต้องการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนพัฒนาเมืองที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

 
Posted : 15/05/2025 8:49 pm
Share: