Guestpost โฟสฟรี ถ้าคุณมีสาระดีๆ ที่นี่เราให้คุณได้แบ่งปัน

Notifications
Clear all

Huawei เปิดตัว MatePad Pro จอ 12.2 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี PaperMatte ที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อความคิดสร้างสรรค์และการทำงานมืออาชีพ

1 Posts
1 Users
0 Reactions
33 Views
supachai
(@supachai)
Posts: 5299
Illustrious Member
Topic starter
 

Huawei ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในตระกูล MatePad ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นเรือธงที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย โดยในครั้งนี้ได้เปิดตัว MatePad Pro จอขนาด 12.2 นิ้ว ที่พัฒนาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้าในปี 2024 ด้วยการอัพเกรดขุมพลังและเทคโนโลยีหน้าจอที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมืออาชีพและผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงสำหรับงานสร้างสรรค์

เทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte: นวัตกรรมที่เหนือชั้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกระดาษจริง

จุดเด่นหลักของ MatePad Pro รุ่นใหม่นี้คือเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte ที่ Huawei พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกับการเขียนบนกระดาษจริง โดยมีคุณสมบัติพิเศษในการลดแสงสะท้อน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นภายในห้องที่มีแสงไฟจ้า หรือแม้กระทั่งกลางแจ้งที่มีแสงแดดส่องโดยตรง

"เทคโนโลยี PaperMatte นี้ได้รับการพัฒนาโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของ Huawei หลังจากการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปี" นายหวัง จิงหยวน รองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Huawei กล่าวในงานเปิดตัว "เราต้องการมอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นธรรมชาติที่สุด เสมือนการเขียนบนกระดาษจริง แต่ยังคงรักษาข้อดีของการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลไว้อย่างครบถ้วน"

หน้าจอของ MatePad Pro รุ่นใหม่นี้ใช้เทคโนโลยี Tandem OLED ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งให้ความสว่างสูงถึง 3,000 นิต ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30% ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 20% และยังมีความละเอียดสูงถึง 2,800 x 1,840 พิกเซล ทำให้ภาพที่แสดงผลมีความคมชัดสูง เหมาะสำหรับงานออกแบบและงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

นอกจากนี้ หน้าจอยังได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ในด้านการถนอมสายตา โดยสามารถลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับหน้าจอแท็บเล็ตทั่วไป ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน

ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นด้วยชิปเซต Kirin 9000S

MatePad Pro รุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยชิปเซต HiSilicon Kirin 9000S ที่ Huawei พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 8 คอร์ ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2.62 GHz ช่วยให้การประมวลผลทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จากการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องต้น Kirin 9000S สามารถทำคะแนนในแอพพลิเคชัน Geekbench 6 ได้สูงถึง 1,260 คะแนนในการทดสอบแบบซิงเกิลคอร์ และ 4,850 คะแนนในการทดสอบแบบมัลติคอร์ ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงกว่าชิปเซตในระดับเดียวกันจากผู้ผลิตรายอื่นหลายราย

การพัฒนาชิปเซตเองนี้ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของ Huawei ท่ามกลางข้อจำกัดทางการค้าที่บริษัทเผชิญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง

ระบบระบายความร้อนแบบ 3 มิติ เพื่อประสิทธิภาพที่คงที่

หนึ่งในความท้าทายของอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงคือการจัดการความร้อน โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่มีความบางเพียง 5.5 มิลลิเมตร เช่น MatePad Pro รุ่นใหม่นี้ Huawei จึงได้พัฒนาระบบระบายความร้อนแบบ 3 มิติที่ล้ำสมัย ซึ่งสามารถกระจายความร้อนไปยังฝาหลังและหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบระบายความร้อนนี้ประกอบด้วยแผ่นกราฟีนหลายชั้นที่ถูกวางในตำแหน่งยุทธศาสตร์ภายในตัวเครื่อง ช่วยให้การถ่ายเทความร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แม้ในสภาพการใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง หรือการแก้ไขวิดีโอความละเอียดสูง อุณหภูมิของตัวเครื่องก็ยังคงอยู่ในระดับที่สัมผัสได้อย่างสบาย

จากการทดสอบของทีมวิศวกร พบว่าระบบระบายความร้อนนี้ช่วยลดอุณหภูมิของชิปเซตได้มากถึง 10 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบดั้งเดิม ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานมีความคงที่แม้ในสภาพการใช้งานที่หนักหน่วง

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10,100 mAh และการชาร์จเร็ว 100W

MatePad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 10,100 mAh ซึ่งตามข้อมูลจาก Huawei สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 19 ชั่วโมงสำหรับการรับชมวิดีโอออนไลน์ หรือ 13 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานเอกสารและการทำงานทั่วไป

นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว SuperCharge ขนาด 100W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% เป็น 80% ในเวลาเพียง 35 นาที และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที ช่วยลดเวลาการรอชาร์จและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

"เราเข้าใจดีว่าผู้ใช้มืออาชีพต้องการอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่อึด สามารถใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน" นายหลี่ เจียฮุย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Huawei กล่าว "และในกรณีที่ต้องการชาร์จเพิ่ม เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 100W ของเราจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว"

กล้องคู่ประสิทธิภาพสูงเพื่องานสร้างสรรค์

แม้ว่าแท็บเล็ตจะไม่ใช่อุปกรณ์หลักสำหรับการถ่ายภาพ แต่ Huawei ก็ไม่ได้ละเลยด้านนี้ โดย MatePad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K ได้

กล้องเหล่านี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายมีความคมชัดและสีสันสมจริง รวมทั้งยังสามารถใช้สำหรับการสแกนเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการแก้ไขความบิดเบี้ยวและปรับความชัดของข้อความโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่ให้คุณภาพสูงสำหรับการประชุมวิดีโอคอล โดยรองรับเทคโนโลยี AI Beauty ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าและเบลอฉากหลังได้ ช่วยให้การประชุมทางไกลมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ระบบปฏิบัติการ EMUI ที่พัฒนาให้เหมาะกับการทำงานหลายงานพร้อมกัน

MatePad Pro รุ่นใหม่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ EMUI สำหรับตลาดทั่วโลก ในขณะที่เวอร์ชันในประเทศจีนจะใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS Next ที่ Huawei พัฒนาขึ้นเอง

ระบบปฏิบัติการนี้ได้รับการออกแบบให้รองรับการทำงานหลายงานพร้อมกัน (Multitasking) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟีเจอร์ "Super Device" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ Huawei อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

"เราได้ปรับปรุงฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอและการใช้งานหลายหน้าต่างให้ดียิ่งขึ้น" นางสาวเจิ้ง เหมยหลิง ผู้จัดการฝ่ายซอฟต์แวร์ของ Huawei กล่าว "ผู้ใช้สามารถเปิดแอพพลิเคชันได้พร้อมกันถึง 4 แอพในหน้าจอเดียว และสลับระหว่างแอพที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ"

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ "App Multiplier" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดแอพพลิเคชันเดียวกันหลายหน้าต่างได้ เช่น เปิดเอกสารหลายไฟล์พร้อมกันในแอพเดียว ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Huawei ได้พัฒนาอุปกรณ์เสริมสำหรับ MatePad Pro รุ่นใหม่นี้โดยเฉพาะ โดยมีอุปกรณ์เสริมหลักคือ Huawei M-Pencil (รุ่นที่ 3) และ Smart Magnetic Keyboard

Huawei M-Pencil รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี NearLink ที่ช่วยลดความหน่วงในการเขียนเหลือเพียง 2 มิลลิวินาที และมีระดับการรับแรงกดถึง 10,000 ระดับ ทำให้การเขียนและวาดภาพเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ เสมือนการใช้ปากกาจริงบนกระดาษ

นอกจากนี้ ปากกายังสามารถชาร์จไฟได้แบบไร้สายโดยการยึดติดกับขอบด้านข้างของแท็บเล็ต และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ส่วน Smart Magnetic Keyboard นั้นเป็นคีย์บอร์ดแบบแม่เหล็กที่ยึดติดกับแท็บเล็ตได้อย่างแน่นหนา มีระยะการเดินทางของปุ่ม (Key Travel) ถึง 1.5 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกเหมือนการพิมพ์บนแล็ปท็อปทั่วไป และยังมีแทร็กแพดขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้งานแบบมัลติทัช

"เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้" นายหวัง เหลียงจุน ผู้จัดการฝ่ายอุปกรณ์เสริมของ Huawei กล่าว "ทั้งปากกาและคีย์บอร์ดของเราได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานจริง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด"

การเชื่อมต่อระบบนิเวศของ Huawei อย่างไร้รอยต่อ

MatePad Pro รุ่นใหม่ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศอุปกรณ์ Huawei ที่สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยเทคโนโลยี Huawei Share และ Multi-Screen Collaboration

ผู้ใช้สามารถควบคุมสมาร์ทโฟน Huawei ผ่านหน้าจอของ MatePad Pro ได้โดยตรง ทำให้สามารถลากและวางไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย หรือแม้กระทั่งการใช้แอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอของแท็บเล็ต

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ Huawei MateBook เพื่อใช้ MatePad Pro เป็นหน้าจอที่สองหรือเป็นแท็บเล็ตสำหรับวาดภาพได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน

"ระบบนิเวศอุปกรณ์ของเราถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ" นายเฉิน จินเจอ รองประธานอาวุโสของ Huawei กล่าว "เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้ในทุกสถานการณ์"

การวางตำแหน่งทางการตลาดและราคา

MatePad Pro รุ่นใหม่นี้ถูกวางตำแหน่งเป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมียมสำหรับมืออาชีพและผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงสำหรับงานสร้างสรรค์ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 849.99 ยูโร (ประมาณ 31,600 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำ 12GB (RAM) + 256GB (Storage) พร้อมคีย์บอร์ดแม่เหล็ก

สำหรับรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte ซึ่งเป็นรุ่นหน่วยความจำ 12GB + 512GB นั้น มีราคาอยู่ที่ 899.99 ยูโร (ประมาณ 39,700 บาท) โดยทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลก ยกเว้นสหราชอาณาจักร

"เราตั้งใจวางราคา MatePad Pro ให้มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่ได้รับ" นายหลิว เวยเจียน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศของ Huawei กล่าว "เรามั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป"

การเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด

เมื่อเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตระดับพรีเมียมในตลาดปัจจุบัน เช่น iPad Pro และ Samsung Galaxy Tab S9+ พบว่า MatePad Pro มีจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte ที่คู่แข่งยังไม่มี รวมถึงแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าและการชาร์จที่เร็วกว่า

ในขณะที่ iPad Pro มีจุดเด่นในด้านระบบนิเวศแอพพลิเคชันที่กว้างขวางกว่า และ Samsung Galaxy Tab S9+ มีจุดเด่นในด้านการรองรับ S Pen ที่มีมานาน แต่ MatePad Pro ก็มีจุดแข็งเป็นของตัวเองในด้านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Huawei อื่นๆ และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองโดย Huawei

"แม้ว่าเราจะเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงเทคโนโลยีบางอย่างจากข้อจำกัดทางการค้า แต่เราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมของเราเอง" นายเฉิน จินเจอกล่าว "เราเชื่อว่าการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาจะช่วยให้เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และมีคุณค่าสำหรับผู้ใช้ของเรา"

การตอบรับจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้รายแรก

ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ MatePad Pro รุ่นใหม่ได้ถูกส่งให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้รายแรกทดลองใช้งาน โดยได้รับคำชมเกี่ยวกับเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte และประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่อง

"เทคโนโลยี PaperMatte ทำให้การวาดภาพและการจดบันทึกเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติมาก เหมือนกับการใช้กระดาษจริง" นางสาวชานทอล เลขาวาติ นักวาดภาพประกอบมืออาชีพและหนึ่งในผู้ทดลองใช้รายแรกกล่าว "แรงเสียดทานที่เหมาะสมระหว่างปากกาและหน้าจอทำให้การควบคุมเส้นทำได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับงานของฉัน"

ในขณะที่นายมาร์ค ลอเรนซ์ นักวิจารณ์เทคโนโลยีจากนิตยสาร Tech Today กล่าวว่า "ประสิทธิภาพของ Kirin 9000S นั้นน่าประทับใจมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดที่ Huawei เผชิญในการพัฒนาชิปเซตของตนเอง การที่พวกเขาสามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพในระดับนี้ได้นั้นเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม"

อนาคตของเทคโนโลยีแท็บเล็ตและทิศทางของ Huawei

การเปิดตัว MatePad Pro รุ่นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Huawei ในการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองท่ามกลางความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาชิปเซตและระบบปฏิบัติการเอง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

"เรามองว่าอนาคตของเทคโนโลยีแท็บเล็ตจะเป็นอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการทั้งด้านความบันเทิงและการทำงาน" นายเหริน เจิ้งเฟย ประธานบริหารของ Huawei กล่าวในงานเปิดตัว "เราต้องการสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานสร้างสรรค์ การศึกษา หรือความบันเทิง"

Huawei ยังได้เปิดเผยแผนการในการพัฒนาเทคโนโลยี PaperMatte ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต เช่น สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

บทสรุป: นวัตกรรมที่น่าจับตามองจาก Huawei

MatePad Pro จอ 12.2 นิ้ว รุ่นใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญของ Huawei ในการพัฒนาเทคโนโลยีแท็บเล็ตระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ PaperMatte ที่เป็นเอกลักษณ์ ชิปเซต Kirin 9000S ที่ทรงพลัง และระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ

แม้ว่าจะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตทั่วไป แต่ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน โดยเฉพาะสำหรับงานสร้างสรรค์และการทำงานมืออาชีพ ทำให้ MatePad Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูง

การที่ Huawei สามารถพัฒนาชิปเซตและเทคโนโลยีของตนเองได้ท่ามกลางข้อจำกัดทางการค้า แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก และน่าจับตามองว่าในอนาคต Huawei จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อะไรออกมาอีก

สำหรับผู้ที่สนใจ MatePad Pro รุ่นใหม่นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป ยกเว้นในสหราชอาณาจักร

This topic was modified 4 weeks ago by supachai
 
Posted : 17/05/2025 3:04 pm
Share: