Guestpost โฟสฟรี ถ้าคุณมีสาระดีๆ ที่นี่เราให้คุณได้แบ่งปัน

Notifications
Clear all

HONOR เปิดตัว MagicBook Art 14 (2025) โน้ตบุ๊กใหม่สุดล้ำ พร้อมชิป Intel Ultra 7 และจอ OLED 3.1K ราคาเริ่มต้น 38,400 บาท

1 Posts
1 Users
0 Reactions
68 Views
supachai
(@supachai)
Posts: 5484
Illustrious Member
Topic starter
 

HONOR ที่แยกตัวออกมาจาก Huawei อย่างเป็นทางการในปี 2020 ได้สร้างความประทับใจให้กับตลาดเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว HONOR MagicBook Art 14 เวอร์ชันปี 2025 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กพรีเมียมที่รวบรวมเทคโนโลยีล่าสุดเข้าไว้ในตัวเครื่องที่บางเฉียบและมีน้ำหนักเบา พร้อมด้วยจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูงและระบบ AI ที่ล้ำสมัย ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนแล้ว

การออกแบบและวัสดุระดับอวกาศ

HONOR MagicBook Art 14 (2025) นับเป็นผลงานศิลปะด้านการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยเกรดเดียวกับที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมยานอวกาศ ทำให้ได้โน้ตบุ๊กที่มีความแข็งแกร่งทนทานแต่มีน้ำหนักเพียง 1.03 กิโลกรัมเท่านั้น ความบางของตัวเครื่องอยู่ที่เพียง 11.5 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่บางที่สุดในตลาดปัจจุบัน

ดีไซน์ของ MagicBook Art 14 นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดยมีรูปทรงโค้งที่เลียนแบบใบเมเปิล ทำให้มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผิวของโน้ตบุ๊กได้รับการเคลือบด้วยเซรามิกพิเศษที่ผ่านกระบวนการอบ UV ทำให้มีผิวสัมผัสที่เรียบเนียนและไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความหรูหราและความทนทานให้กับตัวเครื่องอีกด้วย

การใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยในการกระจายความร้อนได้ดีกว่าอลูมิเนียมธรรมดา ทำให้การใช้งานเป็นเวลานานไม่ทำให้เครื่องร้อนมากเกินไป

จอแสดงผล OLED ความละเอียดสูง 3.1K

หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ HONOR MagicBook Art 14 (2025) คือจอแสดงผล OLED ขนาด 14.6 นิ้ว ที่มีความละเอียด 3.1K (3,120 × 2,080 พิกเซล) ซึ่งให้ความคมชัดที่เหนือกว่าจอ Full HD ถึง 2.7 เท่า สัดส่วนหน้าจอ 3:2 ทำให้มีพื้นที่แสดงผลในแนวตั้งมากกว่าจอ 16:9 ทั่วไป เหมาะสำหรับการทำงานออฟฟิศและการอ่านเอกสาร

จอ OLED นี้มีอัตราการรีเฟรช 120 Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอและการเคลื่อนไหวต่างๆ ดูลื่นไหลและไม่สะดุด สามารถแสดงสีได้ถึง 1,070 ล้านสี และรองรับมาตรฐานสี DCI-P3 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สีที่กว้างกว่า sRGB ทำให้เหมาะสำหรับงานกราฟิกและการแก้ไขภาพ

ความสว่างสูงสุดของจออยู่ที่ 1,600 Nit ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแสงแรงได้โดยไม่มีปัญหา ค่า Delta E (ΔE) ต่ำกว่า 0.5 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่แสดงถึงความแม่นยำของสี ยิ่งค่าต่ำแสดงว่าสีที่แสดงใกล้เคียงกับสีจริงมากที่สุด

จอยังมาพร้อมกับโหมด E-Book พิเศษที่ช่วยลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา เหมาะสำหรับการอ่านเอกสารเป็นเวลานาน และยังมีเซ็นเซอร์แสงแวดล้อมที่สามารถปรับความสว่างของจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม

พลังการประมวลผลระดับโปร

HONOR MagicBook Art 14 (2025) ได้รับการติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core Ultra รุ่นล่าสุด ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 รุ่น คือ Intel Core Ultra 5 225H และ Intel Core Ultra 7 255H ชิปทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 16 คอร์ ที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง (P-Core) และคอร์ประหยัดพลังงาน (E-Core) เพื่อการจัดการงานที่หลากหลาย

ชิป Intel Core Ultra 7 255H สามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 5.1 GHz ทำให้สามารถจัดการงานหนักๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D หรือการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

ด้านกราฟิก MagicBook Art 14 ใช้ชิปกราฟิก Intel ARC ซึ่งมี 2 รุ่นให้เลือก คือ ARC 130T และ ARC 140T ชิปกราฟิกรุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับชิปกราฟิกแบบผสมรุ่นก่อน สามารถรองรับการเล่นเกมระดับกลางและการแก้ไขวิดีโอความละเอียดสูงได้

หน่วยความจำ RAM ที่ใช้เป็น LPDDR5X ที่มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุด 8,400 MT/s ซึ่งเร็วกว่า DDR4 ธรรมดาถึง 2 เท่า ทำให้การเปิดโปรแกรมและการประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว RAM มีขนาด 32 GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำงานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน

สำหรับที่จัดเก็บข้อมูล ใช้ SSD ความเร็วสูงที่มีความจุให้เลือก 2 ขนาด คือ 1 TB และ 2 TB ซึ่งให้ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่รวดเร็ว ทำให้ระบบบูตและโหลดโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัย

แม้ว่า MagicBook Art 14 จะมีตัวเครื่องที่บางมาก แต่ HONOR ได้พัฒนาระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยการใช้ช่องระบายอากาศที่มีความบางพิเศษ ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดีแม้ในพื้นที่จำกัด

พัดลมที่ใช้ในเครื่องได้รับการออกแบบด้วยหลักการไบโอนิก ซึ่งเป็นการเลียนแบบการทำงานจากธรรมชาติ ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดอากาศและระบายความร้อนที่ดีกว่าพัดลมธรรมดา พร้อมกับลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 3 เดซิเบล

นอกจากนี้ยังมีการใช้แผ่นกราไฟต์ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความสามารถในการนำความร้อนที่ดีเยี่ยม ช่วยกระจายความร้อนจากชิปประมวลผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ของตัวเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อุณหภูมิไม่สะสมอยู่จุดใดจุดหนึ่ง

ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพนี้ทำให้ MagicBook Art 14 สามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานที่สูงได้แม้ในการใช้งานหนักเป็นเวลานาน โดยไม่เกิดปัญหา thermal throttling ที่จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง

แบตเตอรี่และการชาร์จ

HONOR MagicBook Art 14 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 60 Wh ซึ่งแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานของชิป Intel Core Ultra ที่ดีขึ้น ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงในการทำงานออฟฟิศทั่วไป

ระบบการชาร์จแบบเร็วเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น โดยสามารถชาร์จจาก 0% เป็น 45% ได้ใน 30 นาที และชาร์จเต็ม 100% ได้ใน 95 นาที ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างการเดินทางหรือการทำงานนอกสถานที่

อะแดปเตอร์ที่มาในกล่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการพกพา และรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้

ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะจะปรับการใช้พลังงานของชิปประมวลผลและส่วนประกอบต่างๆ ตามลักษณะการใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด

กล้องและระบบความปลอดภัย

กล้องเว็บแคมของ MagicBook Art 14 มีความละเอียด 1080p ให้ภาพที่คมชัดสำหรับการประชุมออนไลน์และการสื่อสารทางวิดีโอ สิ่งที่น่าสนใจคือกล้องนี้สามารถปิดเก็บได้ด้วยกลไกแม่เหล็ก เมื่อไม่ใช้งาน กล้องจะซ่อนอยู่ภายในตัวเครื่อง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและป้องกันการแอบถ่าย

กล้องยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่สามารถปรับแสงและโฟกัสอัตโนมัติ ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนแม้ในสภาพแสงที่ไม่เหมาะสม และมีฟีเจอร์ลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม

ระบบรักษาความปลอดภัยยังรวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่บนปุ่มเปิดเครื่อง ทำให้สามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ยังรองรับ Windows Hello สำหรับการเข้าสู่ระบบแบบไร้รหัสผ่าน

ระบบเสียงระดับพรีเมียม

HONOR ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงเป็นอย่างมาก โดย MagicBook Art 14 มาพร้อมกับลำโพงถึง 6 ตัว ที่จัดวางอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เสียงที่มีมิติและครอบคลุม

ระบบเสียง Magic Spatial Audio ให้ประสบการณ์เสียงแบบเซอร์ราวด์ที่สมจริง ทำให้การฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมมีความสนุกสนานมากขึ้น เทคโนโลยี DTS Headphone ยังช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงเมื่อใช้หูฟัง ให้เสียงที่ละเอียดและมีความลึก

ไมโครโฟนแบบ array ที่มีการลดเสียงรบกวนช่วยให้เสียงที่บันทึกได้มีความชัดเจน เหมาะสำหรับการประชุมออนไลน์และการสนทนาทางวิดีโอ

คีย์บอร์ดและทัชแพด

คีย์บอร์ดของ MagicBook Art 14 เป็นแบบ Full-Size ที่มีปุ่มครบทุกฟังก์ชัน รวมถึงแป้นตัวเลขด้านข้าง แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาด 14 นิ้ว ปุ่มกดมีระยะกดที่เหมาะสม ให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่ดี และมีแบ็คไลท์ปรับได้หลายระดับสำหรับการใช้งานในที่มืด

ทัชแพดมีขนาดใหญ่ถึง 120 ตารางเซนติเมตร รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชได้ถึง 9 รูปแบบ ทำให้สามารถใช้ gesture ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล เช่น การซูมภาพ การเลื่อนหน้าจอ หรือการสลับระหว่างโปรแกรม

ผิวของทัชแพดมีเคลือบพิเศษที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่นุ่มนวลและไม่เป็นรอยนิ้วมือ การตอบสนองของทัชแพดมีความแม่นยำสูงและรองรับ Windows Precision Touchpad

พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน

แม้ว่าตัวเครื่องจะบาง แต่ MagicBook Art 14 ยังคงมีพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลายและครบครัน ได้แก่:

พอร์ต USB-C 3.2 Gen2 ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงและรองรับการชาร์จ รวมถึงการเชื่อมต่อจอภาพนอก

พอร์ต Thunderbolt 4 เป็นพอร์ตที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การเชื่อมต่อจอภาพ 4K และการชาร์จไฟ

พอร์ต USB-A 3.2 Gen1 สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าที่ยังใช้พอร์ต USB-A

พอร์ต HDMI 2.1 รองรับการแสดงผลภาพความละเอียด 4K ที่อัตรา 60 Hz สำหรับการเชื่อมต่อจอภาพนอกหรือทีวี

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร สำหรับการฟังเสียงแบบส่วนตัว

การมีพอร์ตที่หลากหลายนี้ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาดองเกิลหรืออุปกรณ์เสริมมากนัก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการใช้งานจริง

การเชื่อมต่อไร้สาย

MagicBook Art 14 รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายล่าสุด ได้แก่:

Wi-Fi 6E ที่ให้ความเร็วและความเสถียรที่ดีกว่า Wi-Fi รุ่นก่อน รองรับการใช้งานในแบนด์ความถี่ 6 GHz ที่มีการแออัดน้อย

Bluetooth 5.1 สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น หูฟังไร้สาย เมาส์ คีย์บอร์ด

NFC สำหรับการเชื่อมต่อแบบใกล้ชิดและการแชร์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว

ฟีเจอร์ LINK Turbo X ที่ HONOR พัฒนาขึ้นเอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยสามารถรวมสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth ให้ทำงานร่วมกันเพื่อความเร็วและเสถียรภาพที่ดีที่สุด

ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ AI

MagicBook Art 14 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home (Chinese Edition) ร่วมกับ MagicOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ HONOR พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์พิเศษต่างๆ

ผู้ช่วยอัจฉริยะ YOYO คือ AI Assistant ที่สามารถช่วยงานต่างๆ ได้ตามคำสั่งเสียง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล การตั้งค่าระบบ หรือการเปิดโปรแกรม

การสรุปรายงานการประชุมแบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์นี้สามารถฟังและสรุปสาระสำคัญจากการประชุมออนไลน์ ช่วยให้ไม่พลาดประเด็นสำคัญ

การแปลข้อความแบบเรียลไทม์ รองรับการแปลภาษาต่างๆ ขณะพิมพ์หรือพูด ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย

HONOR Notes และ Documents เป็นแอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึกและจัดการเอกสารที่มี AI ช่วยในการจัดระเบียบและค้นหาข้อมูล

การรองรับ DeepSeek สำหรับการเขียนโปรแกรม AI จะช่วยแนะนำโค้ด แก้ไขข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์

ระบบรักษาความปลอดภัยขณะฉายหน้าจอ ป้องกันข้อมูลสำคัญจากการถูกมองเห็นโดยคนอื่นระหว่างการนำเสนอ

การแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ สามารถแชร์ไฟล์ระหว่างโน้ตบุ๊กกับสมาร์ทโฟน HONOR ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ประสิทธิภาพและการใช้งานจริง

จากการทดสอบเบื้องต้น MagicBook Art 14 (2025) แสดงประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ ชิป Intel Core Ultra 7 255H สามารถจัดการงานหนักๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขภาพความละเอียดสูง การตัดต่อวิดีโอ 4K หรือการใช้งานโปรแกรม CAD

จอ OLED ความละเอียด 3.1K ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใส เหมาะสำหรับงานกราฟิกและการดูคอนเทนต์ต่างๆ การที่มีอัตราการรีเฟรช 120 Hz ทำให้การใช้งานรู้สึกลื่นไหลมาก

ระบบระบายความร้อนทำงานได้ดี แม้ในการใช้งานหนักเป็นเวลานาน อุณหภูมิของเครื่องไม่สูงมากจนรบกวนการใช้งาน และเสียงพัดลมไม่ดังรบกวน

แบตเตอรี่ใช้งานได้จริงประมาณ 8-10 ชั่วโมงในการทำงานออฟฟิศทั่วไป ถ้าใช้งานหนักจะได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีสำหรับโน้ตบุ๊กที่มีจอ OLED ความละเอียดสูง

ราคาและความคุ้มค่า

HONOR ได้กำหนดราคา MagicBook Art 14 (2025) ในประเทศจีนดังนี้:

รุ่น Intel Core Ultra 5 + 32 GB RAM + 1 TB SSD ราคา 8,499 หยวน หรือประมาณ 38,400 บาท

รุ่น Intel Core Ultra 7 + 32 GB RAM + 1 TB SSD ราคา 9,499 หยวน หรือประมาณ 42,900 บาท

รุ่น Intel Core Ultra 7 + 32 GB RAM + 2 TB SSD ราคา 9,999 หยวน หรือประมาณ 45,200 บาท

เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีสเปกใกล้เคียง ราคาของ MagicBook Art 14 ถือว่าแข่งขันได้ดี โดยเฉพาะการที่ได้จอ OLED ความละเอียด 3.1K และการออกแบบพรีเมียมด้วยวัสดุแมกนีเซียมอัลลอย

การที่มี RAM 32 GB มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นถือเป็นข้อดี เพราะหลายยี่ห้อยังคงใช้ 16 GB เป็นมาตรฐาน และการอัปเกรด RAM หลังจากซื้อมักจะมีราคาแพง

ช่องทางจำหน่าย

ปัจจุบัน HONOR MagicBook Art 14 (2025) จำหน่ายในประเทศจีนผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้:

HONOR Mall เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ HONOR ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อโดยตรงจากบริษัท

HONOR Experience Store ร้านค้าของ HONOR ที่ลูกค้าสามารถไปทดลองใช้และซื้อได้

ตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ทั้งร้านค้าออนไลน์และหน้าร้านทั่วประเทศจีน

สำหรับตลาดนอกประเทศจีน HONOR ยังไม่ได้ประกาศแผนการขายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะมีการเปิดตัวในตลาดสำคัญๆ ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2025

การรับประกันและบริการหลังการขาย

HONOR ให้การรับประกันฮาร์ดแวร์มาตรฐาน 1 ปี สำหรับ MagicBook Art 14 โดยครอบคลุมส่วนประกอบหลักทั้งหมด รวมถึงจอแสดงผล แบตเตอรี่ และคีย์บอร์ด

บริการหลังการขายรวมถึงการซ่อมแซมฟรี การเปลี่ยนอะไหล่ และการอัปเดตซอฟต์แวร์ HONOR มีศูนย์บริการทั่วประเทศจีนและกำลังขยายไปยังประเทศอื่นๆ

สำหรับซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ HONOR มีการอัปเดตเป็นประจำเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ

สรุป

HONOR MagicBook Art 14 (2025) เป็นโน้ตบุ๊กที่รวบรวมเทคโนโลยีล่าสุดและการออกแบบพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว การใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยทำให้ได้เครื่องที่เบาและบาง แต่แข็งแกร่งทนทาน จอ OLED ความละเอียด 3.1K ให้ประสบการณ์ภาพที่ยอดเยี่ยม และชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับงานหนัก

ฟีเจอร์ AI ต่างๆ ที่มาพร้อมกับ MagicOS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหา

ราคาที่กำหนดมาถือว่าแข่งขันได้ในระดับเดียวกัน และการที่มี RAM 32 GB เป็นมาตรฐานเป็นข้อดีเพิ่มเติม หากมีการจำหน่ายนอกประเทศจีน MagicBook Art 14 (2025) น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพสูงและการออกแบบที่โดดเด่น

This topic was modified 2 weeks ago by supachai
 
Posted : 05/07/2025 1:42 pm
Share: