ตำรวจไซเบอร์ไทยเผยเครือข่ายการเงินปริศนาเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ สหรัฐฯ ขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทของตระกูลฮุน ฐานฟอกเงินจากการปล้นไซเบอร์เกาหลีเหนือและมิจฉาชีพระดับโลก
วันที่ 17 มิถุนายน 2568 - วงการความมั่นคงไซเบอร์และการเงินระหว่างประเทศได้รับการเขย่าขวัญครั้งใหญ่ เมื่อตำรวจไซเบอร์ไทยเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ 'Huione Group' เครือบริษัทการเงินขนาดใหญ่ของกัมพูชา ที่มีความเชื่อมโยงกับตระกูลฮุน และถูกสหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็กลิสต์ฐานเป็นศูนย์กลางฟอกเงินระดับโลกมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท
ตำรวจไซเบอร์ไทยเปิดโปงเครือข่ายการเงินปริศนา
พลตำรวจเอก ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ถึงการค้นพบที่น่าตกใจของหน่วยงานตำรวจไซเบอร์ไทย ซึ่งพบว่าบริษัท Huione Group ได้รับโอนเงินจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกลวงประชาชนไทยเป็นจำนวนมาก
"เราพบเส้นทางการเงินที่ซับซ้อนและมีการส่งต่อเป็นทอด ๆ ไปยังบริษัทดังกล่าว" พล.ต.อ.ไตรรงค์ กล่าว "มีการแปลงทรัพย์สินที่ได้จากเงินในบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีม้าแถวต่าง ๆ ก่อนจะแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล แล้วนำไปแปลงเป็นเงินสดและทรัพย์สินที่บริษัทดังกล่าว"
การสืบสวนของตำรวจไทยเผยให้เห็นถึงรูปแบบการฟอกเงินที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายขั้นตอน โดยเริ่มจากการหลอกลวงเหยื่อในประเทศไทย จากนั้นเงินจะถูกส่งผ่านบัญชีม้าแถวหลายชั้น ก่อนจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลและไหลไปยัง Huione Group ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา
ความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ชายแดน
ตำรวจไทยได้ระบุความเป็นไปได้สำคัญ 2 ประการเกี่ยวกับการดำเนินงานของ Huione Group ประการแรก บริษัทนี้ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชาและอาจตั้งอยู่ในพื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์ตามแนวชายแดน ประการที่สอง พื้นที่ดังกล่าวอาจเป็นของกลุ่มคนร้ายที่ใช้บริษัทนี้เป็นช่องทางแลกเงินสกุลดิจิทัลออกมาเป็นเงินสดหรือโอนเข้าสู่บัญชีอื่น ๆ
"ที่ผ่านมาคดีของเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่าง ๆ มีเส้นทางการเงินไปถึงบริษัทแห่งนี้เป็นส่วนใหญ่" พล.ต.อ.ไตรรงค์ เน้นย้ำ
อย่างไรก็ตาม ในด้านของความร่วมมือในการสืบสวน พล.ต.อ.ไตรรงค์ เผยว่า การประสานขอข้อมูลจากหลายบริษัทได้รับความร่วมมือที่แตกต่างกัน โดยบริษัทในประเทศส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือไม่เท่ากัน แต่ Huione Group ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลกลับมาเป็นบางกรณี
เผยโฉมหน้าผู้บริหาร Huione Group - เครือญาติตระกูลฮุน
ข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบแล้วเผยให้เห็นว่า Huione Group เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินขนาดใหญ่ของกัมพูชา ที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับตระกูลฮุน ซึ่งเป็นตระกูลการเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดในกัมพูชา
ผู้บริหารคนสำคัญของ Huione Group คือ "ฮุน โต (Hun To)" ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน และเป็นหลานชายของ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ฮุน โต ดำรงตำแหน่งกรรมการของ Huione Pay ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Huione Group
ความเชื่อมโยงทางการเมืองนี้ทำให้ Huione Group มีอำนาจและอิทธิพลมากในการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา และอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมหลากหลายด้าน
จักรวรรดิธุรกิจหลากหลายสาขา
Huione Group ประกอบด้วยเครือบริษัทที่ให้บริการหลากหลายด้าน แต่ละบริษัทมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินที่ซับซ้อน
Huione Pay PLC - หัวใจของระบบการชำระเงิน
Huione Pay เป็นบริษัทหลักที่ให้บริการชำระเงินและโอนเงินในกัมพูชา บริษัทนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประมวลผลธุรกรรมทางการเงินจำนวนมาก และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างระบบการเงินแบบดั้งเดิมกับโลกของสกุลเงินดิจิทัล
Huione Crypto - ประตูสู่โลกสกุลเงินดิจิทัล
Huione Crypto เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ให้บริการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินสดและสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ แพลตฟอร์มนี้มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับการฟอกเงิน เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลสามารถถูกโอนย้ายข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วและยากต่อการติดตาม
Haowang Guarantee - ตลาดอาชญากรรมออนไลน์
Haowang Guarantee ถือเป็นส่วนที่น่าตกใจที่สุดของเครือบริษัท โดยเป็นตลาดออนไลน์ที่ขายสินค้าและบริการผิดกฎหมายอย่างเปิดเผย ตลาดแห่งนี้กลายเป็นจุดรวมตัวของอาชญากรข้ามชาติและเป็นช่องทางในการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ
ข้อมูลจากบริษัท Elliptic ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์บล็อกเชน เปิดเผยว่า Huione Guarantee กลายเป็น "ตลาดอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" ด้วยมูลค่าธุรกรรมรวมกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 945,000 ล้านบาท
สหรัฐฯ เปิดศึกฟอกเงิน - ขึ้นแบล็กลิสต์เครือบริษัท
การดำเนินการของสหรัฐอเมริกาต่อ Huione Group เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เมื่อหน่วยงาน FinCEN (Financial Crimes Enforcement Network) ในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นแบล็กลิสต์ Huione Group อย่างเป็นทางการ
ผลการสืบสวนที่น่าตกใจ
FinCEN เปิดเผยผลการสืบสวนที่แสดงให้เห็นว่า Huione Group ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำคัญในการฟอกเงินของแก๊งค์อาชญากรระดับโลก โดยมีมูลค่าการฟอกเงินรวมกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 140,000 ล้านบาท
การสืบสวนของ FinCEN พบว่า Huione Group มีบทบาทสำคัญในการฟอกเงินจาก:
- การปล้นไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ - กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ
- การหลอกลวงแบบ "pig butchering" - รูปแบบการหลอกลวงที่แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกเหยื่อลงทุนแล้วเชิดเงิน
รายละเอียดการฟอกเงินตามช่วงเวลา
จากการสืบสวนของ FinCEN ระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 ถึงมกราคม 2025 Huione Group ฟอกเงินจำนวนมหาศาลดังนี้:
37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปล้นไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ - เงินจำนวนนี้มาจากการโจมตีไซเบอร์ที่เกาหลีเหนือดำเนินการต่อสถาบันการเงินและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก
36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการหลอกลวงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล - เงินที่มาจากการหลอกลวงผู้ลงทุนให้ลงทุนในโครงการสกุลเงินดิจิทัลปลอม
300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการหลอกลวงไซเบอร์รูปแบบอื่น ๆ - รวมถึงการหลอกลวงทางโรแมนซ์ การขายของปลอม และการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ
มาตรการลงโทษและการตอบโต้
สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินมาตรการลงโทษที่ครอบคลุมและเข้มงวดเพื่อปิดกั้นเครือข่ายการฟอกเงินนี้
การห้ามธุรกรรมทางการเงิน
สหรัฐฯ ได้ห้ามสถาบันการเงินสหรัฐฯ ทุกแห่งจากการทำธุรกรรมใด ๆ กับ Huione Group และบริษัทในเครือ มาตรการนี้มีผลทำให้ Huione Group ถูกตัดขาดจากระบบการเงินสากลที่ใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลัก
การปิดช่องทางออนไลน์
Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ Haowang Guarantee ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ได้ดำเนินการปิดช่องทางหลายพันช่องที่เกี่ยวข้องกับ Huione Guarantee การปิดช่องทางนี้สร้างความเสียหายต่อการดำเนินงานของตลาดอาชญากรรมออนไลน์อย่างมาก
การเพิกถอนใบอนุญาตในกัมพูชา
ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาได้เพิกถอนใบอนุญาตธนาคารของ Huione Pay ในเดือนมีนาคม 2568 เนื่องจากการละเมิดกฎระเบียบต่าง ๆ การเพิกถอนใบอนุญาตนี้เป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากนานาชาติและแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในกัมพูชา การดำเนินงานของ Huione Group ก็เริ่มเผชิญกับอุปสรรค
ผลกระทบต่อระบบการเงินโลก
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Huione Group ได้สร้างผลกระทบวงกว้างต่อระบบการเงินโลกในหลาย ๆ ด้าน
ความกังวลเรื่องความมั่นคงของสกุลเงินดิจิทัล
กรณีของ Huione Group เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการใช้สกุลเงินดิจิทัลในทางที่ผิด ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต้องพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลให้เข้มงวดมากขึ้น
การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูต
การที่ Huione Group มีความเชื่อมโยงกับตระกูลการเมืองที่มีอำนาจในกัมพูชา อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัมพูชากับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
Scott Bessent เลขานุการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Huione Group โดยกล่าวว่า "Huione Group ได้สร้างตัวเองให้เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงสำหรับผู้ประกอบการไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เช่น เกาหลีเหนือ และกลุ่มอาชญากรรม ซึ่งได้ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากชาวอเมริกันทั่วไป"
คำกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาและความมุ่งมั่นของสหรัฐอเมริกาในการแก้ไขปัญหานี้
ผลกระทบต่อประเทศไทย
การเปิดเผยข้อมูลนี้มีผลกระทบสำคัญต่อประเทศไทยในหลายด้าน
การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง
ประเทศไทยจำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและชุมชนระหว่างประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการฟอกเงินและการหลอกลวงออนไลน์
การพัฒนาระบบการกำกับดูแล
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจำเป็นต้องพัฒนาระบบการกำกับดูแลและการติดตามธุรกรรมทางการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยกลายเป็นช่องทางการฟอกเงิน
การปกป้องประชาชน
การเปิดเผยข้อมูลนี้เป็นการเตือนภัยให้ประชาชนไทยระวังการหลอกลวงออนไลน์ และช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินมาตรการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อนาคตของการสืบสวน
พล.ต.อ.ไตรรงค์ ระบุว่า การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า Huione Group มีความผิดปกติหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ รวมทั้งความเชื่อมโยงที่แท้จริงกับตระกูลฮุน
ความท้าทายในการสืบสวน
การสืบสวนเครือข่ายการฟอกเงินข้ามชาติเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายประเทศ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ต้องสงสัยมีความเชื่อมโยงทางการเมือง
การพัฒนาเทคโนโลยีการติดตาม
หน่วยงานต่าง ๆ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลและการฟอกเงินออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทเรียนสำคัญ
กรณีของ Huione Group ให้บทเรียนสำคัญหลายประการ:
ความจำเป็นของการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล
การที่อาชญากรสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลในการฟอกเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการพัฒนากฎระเบียบและการกำกับดูแลที่เหมาะสม
ความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ
อาชญากรรมข้ามชาติต้องอาศัยการต่อสู้แบบข้ามชาติเช่นกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็น
อิทธิพลของการเมืองต่อการดำเนินการทางกฎหมาย
กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการมีความเชื่อมโยงทางการเมืองอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการทางกฎหมาย และความจำเป็นของการมีกลไกการตรวจสอบที่เป็นอิสระ
สรุป: จุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Huione Group ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์และการฟอกเงินระดับโลก กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของเครือข่ายอาชญากรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและสกุลเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือ
ความสำเร็จในการเปิดโปงเครือข่ายนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการติดตามที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ต้องสงสัยมีความเชื่อมโยงทางการเมือง ทำให้การดำเนินการทางกฎหมายเผชิญกับความท้าทายพิเศษ
สำหรับประเทศไทยและประเทศในภูมิภาค กรณีนี้เป็นการเตือนใจถึงความจำเป็นของการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงไซเบอร์และการพัฒนาระบบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสวรรค์ของอาชญากรออนไลน์
การต่อสู้กับ Huione Group และเครือข่ายที่คล้ายคลึงกัน จะต้องอาศัยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีการติดตามที่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุดคือความมุ่งมั่นของผู้นำโลกในการสร้างระบบการเงินโลกที่ปลอดภัยและโปร่งใสสำหรับทุกคน
เมื่อเครือข่ายอาชญากรรมพัฒนาและปรับตัวอย่างรวดเร็ว การตอบโต้ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน กรณีของ Huione Group จะเป็นบทเรียนสำคัญที่จะช่วยให้การต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์ในอนาคตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น