“แมฟส์” ถอยหลังเพื่อก้าวกระโดด

กีฬา ข่าวด่วนวันนี้

คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ดัลลัส มาเวอริกส์ ปิดฉากฤดูกาล 2022-23 เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (8 เม.ย.) หลังพัก ลูกา ดอนซิช ก่อนหมดลุ้นเข้าเพลย์ออฟตามหลักคณิตศาสตร์ ความพ่ายแพ้แก่ ชิคาโก บูลล์ส กลายเป็นสิ่งอัปยศเพื่ออนาคตของแฟรนไชส์

ระบบการแข่งขัน เพลย์-อิน ทัวร์นาเมนต์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการล้มบาสฯ หรือเรียกแบบหรูๆ ตามภาษาแฟนๆ เอ็นบีเอ (NBA) ว่า “tanking” แต่เกมเยือน ชิคาโก เป็นเกมที่ต้องแพ้สำหรับ ดัลลัส ซึ่งจบเรกูลาร์ ซีซัน สถิติ ชนะ 38 แพ้ 44 ส่งผลให้รั้งอันดับ 10 ของทีมผลงานแย่สุด

การแทงค์ของ ดัลลัส อาจไม่เพียงพอถึงขั้นดราฟต์ วิคเตอร์ เวมบานยามา ฟอร์เวิร์ดเสาโทรเลขชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตัวเต็งดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2023 โดยมีความน่าจะเป็นของการเสี่ยงล็อตเตอรีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการหาตัวผู้เล่นเข้ามาเสริม เมื่อทีมมาถึงทางแยก

อนาคตของ เออร์วิง ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม ผลงานของทีมซึ่งร่วงจากอันดับ 5 ของสายตะวันตก กระทั่งหลุดพื้นที่เพลย์-อิน อาจแสดงให้เห็นว่า การเทรดเขามาร่วมจับคู่ ดอนซิช เป็นความผิดพลาดครั้งหนึ่งจนทำให้ทีมเสียสมดุล จากเดิม ดอนซิช ถือบอลเป็นส่วนมาก กลับมี เออร์วิง เข้ามาขอแชร์ ถ้าแยกกันอยู่ทั้งคู่ต่างมีความสามารถด้านการคุมบอล หรือสร้างเพลย์ด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว กลายเป็นบทบาททับซ้อน

ผลกระทบจากการเทรด ยังส่งผลให้ แมฟส์ เสียตัวยิง 3 แต้ม และตัวป้องกันอย่าง ดอเรียน ฟินนีย์-สมิธ ไปให้ บรูกลิน เน็ตส์ ซึ่งตามความเห็นส่วนตัวของผมมองว่า แมฟส์ ควรหาผู้เล่นตัวใหญ่ หรือ บิ๊ก แมน เข้ามาประสานงาน ดอนซิช รวมถึงเพื่อทำแต้มและป้องกันใต้แป้น, คอยสกรีน และเล่น พิค แอนด์ โรลล์ หรือ พิค แอนด์ พ็อพ ได้ มันจะแบ่งเบาภาระได้เยอะกว่าการใช้ 2 การ์ดที่ไม่ได้โดดเด่นด้านป้องกัน

กระแสข่าวจากต่างประเทศแว่วมาว่า เออร์วิง ต้องการอำลาถิ่น บาร์เคลย์ เซ็นเตอร์ เนื่องจาก บรูกลิน ทำท่าจะไม่ยอมจ่ายค่าจ้างปีแรกของสัญญาระยะยาว มูลค่า 46-47 ล้านเหรียญสหรัฐ หากพิจารณาเรื่องนอกสนาม ไม่ต้องย้อนไปไหนไกล เขาค่อนข้างทำตัวมีปัญหาเยอะ ตั้งแต่ปฏิเสธฉีดวัคซีน โควิด-19 มาจนถึงโพสต์เชียร์หนังเหยียดยิวทาง โซเชียล มีเดีย

จริงๆ การเทรด เออร์วิง มาร่วมทีม อาจมองได้ว่า ถ้าเล่นไม่ได้ปล่อยหมดสัญญาแล้วไปหาตัวใหม่ แต่สิ่งที่มันเรียกกลับคืนได้ยาก คือ สิทธิ์ดราฟต์ และผู้เล่นที่เสียไป หากผู้บริหารคิดแบบนี้ ก็อย่าไปเทรดด้วยเลยดีกว่า ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า ดัลลัส จะต่อสัญญาระยะยาวแก่ เออร์วิง ซึ่งปัญหาของแฟรนไชส์ มันจะเริ่มจากการต่อสัญญานี่แหละ ถ้า เออร์วิง ยังสะเงาะสะแงะเหมือนอยู่ เน็ตส์

ส่วนประเด็นคดีความซึ่ง NBA แถลงว่าจะดำเนินการสอบสวน ดัลลัส ว่าล้มบาสฯ แทบฟันธงได้เลยว่า แมฟส์ มีโอกาสพ้นข้อกล่าวหาสัก 90 เปอร์เซ็นต์ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ เผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์สื่อสักค่ายหนึ่งปล่อยหลักฐานชนิดดิ้นไม่หลุด เพราะตามหลักการสืบคดีของซีรีส์จีน “เปาบุ้นจิ้น” บอกว่า ข้อสันนิษฐานที่ปราศจากหลักฐานสนับสนุน มันจะเป็นเพียงข้อสันนิษฐานซึ่งไม่สามารถเอาผิดจำเลยได้ แต่ก็ใช่ว่า แมฟส์ จะไม่มีเจตนาล้มจริง

ตามสถานการณ์สามารถคิดเช่นนั้นได้ แต่ถ้าตัดสินลงโทษด้วยวิธีการใดก็ตาม NBA จะอธิบายต่อชาวโลกได้อย่างไรว่า และเมื่อไม่สามารถอธิบายได้ จึงเท่ากับว่าไม่เป็นธรรม ถึง แมฟส์ จะมีเจตนาล้มจริง แต่เวลาผู้บริหาร และโค้ชพูดคุยกัน ย่อมปิดห้องหารือแบบลับๆ และไม่ปล่อยให้มีหลักฐานเอาไว้มัดตัวเอง ตลอดจนการแก้ตัวก็ต้องนัดแนะซักซ้อมมาอย่างดี เพื่อให้คำให้การเป็นไปในทางเดียวกัน โดยไม่เกิดช่องโหว่ นั่นคือเหตุผลว่า การแถลงสอบสวน เป็นเพียงการทำตามคำครหา และรักษาภาพลักษณ์ของลีกเท่านั้น

การตัดสินใจทิ้งการแข่งขัน เพลย์-อิน อาจไม่ถูกใจกองเชียร์ ดัลลัส สักเท่าไร แต่แฟรนไชส์ประเมินตัวเองมาแล้วว่า พวกเขาแทบไม่มีโอกาสลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ แต่ถ้าสามารถเติมผู้เล่นเก่งๆ ทั้งการดราฟต์ หรือการเทรด พวกเขาจะมีขุมกำลังรายล้อม ดอนซิช และ เออร์วิง ที่แกร่งกว่าเดิม เปรียบได้ว่า เวลาคุณจะกระโดดให้ไกลขึ้น ก็ต้องยอมถอยหลังแล้ววิ่งสุดแรง ก่อนลอยตัวจากพื้นดิน