วันที่ 25 ธันวาคม 2564 เวลา 11.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เอเอฟเอฟ หรือ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบรองชนะเลิศ เลกสอง คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม
สถานการณ์ในเกมแรก ทีมชาติไทย เอาชนะ เวียดนาม มาได้ก่อน 2-0 จากการยิงสองประตูของ ชนาธิป สรงกระสินธ์
การแถลงข่าวครั้งนี้ ทางทีมชาติไทย ได้ส่ง มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางตัวเก่งเข้าร่วมการแถลงข่าว
ภายในงานแถลงข่าว มาโน โพลกิง กล่าวว่า “ด้วยความที่มีเวลาเตรียมตัวกันแค่ 2 วัน คงไม่สามารถซ้อมอะไรได้มาก จะเน้นเรื่องการวิเคราะห์จากเกมแรก สิ่งที่ไทยทำได้ดีและอะไรที่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือ สกอร์นำ 2-0 เป็นสกอร์ที่อันตราย ถ้าหากเวียดนามทำประตูได้พวกเขาได้ความเชื่อมั่นกลับมา ดังนั้น เราจะต้องมีสมาธิ ห้ามเสียประตูและเล่นแบบที่ทำได้ดีในครึ่งแรกของเกมแรก ถ้าหากทำประตูได้จะทำให้ได้เปรียบมากยิ่งขึ้น เพื่อจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้”
“ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยแฮปปี้กับครึ่งหลังเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะแท็กติกตัวเองที่จะเน้นคอมแพกต์เกมมากขึ้น เลยทำให้โดนกดดันอย่างหนักจากเวียดนาม พวกเขามีโอกาสหลายครั้ง ทั้งยิงชนคาน-ชนเสา เท่ากับว่า แผนที่วางไปไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นักจะต้องนำมาปรับปรุงในเกมนี้”
“ในเรื่องของวีเออาร์ ถ้าจะทำให้ฟุตบอลมันมีคุณภาพที่ดีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำในวิธีที่ถูกต้องเหมือนอย่างลีกต่างประเทศทำกัน ส่วนจากเกมแรกที่มีคอมเมนต์ แฟนเวียดนามมากมาย ผมคิดว่าต่อให้มีวีเออาร์ ผลการตัดสินจะออกมาแบบเดิม ไม่ได้ช่วยให้ผลตัดสินมันเปลี่ยนไป นอกจากนี้ ถ้าพูดถึงวีเออาร์ไทยควรจะได้ยิงจุดโทษใหม่ด้วย เพราะผู้รักษาประตูเวียดนามไม่ได้ยืนบนเส้น อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ไปโฟกัสกับการตัดสินของผู้ตัดสิน เพราะในเกมมีหลายอย่างให้วิเคราะห์มากมาย และมีสมาธิกับเกมดีกว่า”
“ตนไม่คิดว่าไทยกับเวียดนามใครมีคุณภาพดีกว่ากัน เพราะทั้งสองทีมมีทีมที่ดี ทรัพยากรนักเตะที่ดี และก็มีแนวทางการเล่นที่ชัดเจน ส่วนชนาธิปนั้น เรารู้คุณภาพของเขาเป็นอย่างดีและทำผลงานได้ดีมากๆ ในเกมแรก เป็นเรื่องดีที่มีชนาธิปอยู่ในทีม และหวังว่าจะทำผลงานได้ดีอีกในเกมนัดที่สอง ซึ่งจะเป็นเกมที่ยาก จะต้องเล่นเป็นทีมให้ได้ตลอด 90 นาที แต่อย่างที่บอกไว้ว่ามันเป็นเกมที่อันตรายและต้องมีสมาธิให้ได้”
“แผนการเล่นของเวียดนามคิดว่าจะต่างออกไปจากนัดแรก เพราะตอนนี้สกอร์มันเริ่มต้นที่ไทยนำอยู่ 2-0 คิดว่าเวียดนามน่าจะใช้แผนแบบเดียวกันในครึ่งหลัง ดันวิงแบ็กขึ้นมาบุกมากขึ้น แล้วก็ขยับ เหวียน กวง ไฮ เข้ามาตรงกลางมากขึ้น ซึ่งทีมไทยก็ต้องมาวิเคราะห์ในแต่ละจุดให้ดี พร้อมกับติวลูกทีมให้รับมือกับทุกระบบที่เวียดนามจะใช้ได้ นอกจากนี้ จะกลับมาเล่นในแบบตัวเองเหมือนเกมครึ่งแรกที่ทำได้ดี ไม่แพ็กเกมรับมากเกินไปแบบในครึ่งหลังแล้ว”
ด้าน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางทีมชาติไทย กล่าวว่า “ทุกคนในทีมมีความมั่นใจมากๆ แต่ก็เชื่อว่า เกมที่สองจะยากแน่นอน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ทีมนั้นมีคุณภาพที่ดีที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้”
โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน โดยนัดที่สองจะแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ถ่ายทอดสดทาง CH7 HD และ AIS Play
