ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ยอมรับว่าทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มได้ไม่ดี แม้จะเอาชนะ สปป.ลาว พร้อมกล่าวว่าอยากแก้ตัวกับเวียดนามในนัดชิงชนะเลิศ โดยจะทำการบ้านนักเตะใหม่ที่ตามมาเสริมทัพดาวทองอย่างละเอียด
เกมรอบรองชนะเลิส ไทย ได้สองประตูจาก ธีรศักดิ์ เผยพิมาย และ เกริกพล อาบรัมย์ ทำให้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้เป็นครั้งที่ 3
“วันนี้ผมไม่สามารถพูดได้ว่านี่คือฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของทีม แต่เรายังครองเกมได้ สร้างโอกาสได้มากมาย และเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะ แต่เราต้องปรับปรุงข้อผิดพลาดก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ” ซัลบาดอร์ กล่าว
“มันเป็นเรื่องยาก สำหรับการฟื้นฟูร่างกาย เพราะเรามีเวลาพักก่อนเกมนี้แค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ระหว่างเกม แต่เราก็ทำได้ดีที่สุดในแบบของเรา”
“ผมคิดว่านี่คือสิ่งสำคัญ ในการสอนนักเตะกลุ่มนี้ หลังจากที่เราทำงานร่วมกันมานาน วันนี้เราอาจจะเล่นได้ไม่ดี แต่เราต้องทำงาน รักษาคอนเซปต์การเล่น และทัศนคติ นั่นคือสิ่งที่เราพูดคุยกันอยู่เสมอ”
“ผมอยากจะพูดอีกเรื่อง วันนี้เราได้แสดงสปิริต และความสามัคคีออกมา ทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ผมเองก็ไม่อยากให้ใครในทีมติดเชื้อโควิด เมื่อวานนี้ เป็นวันที่ผมกังวลที่สุด นับตั้งแต่อยู่เมืองไทยมา 5 ปี เราเจอกับสถานการณ์ที่น่ากังวล เราไม่รู้ว่ามีใครติดโควิดบ้าง หลังมีนักเตะเวียดนามติดโควิด และเราต้องย้ายโรงแรม ต้องอาศัยการสื่อสาร กับโค้ชทุกคน เพราะตัวผมเองก็เครียดเหมือนกัน จนแทบจะไม่พร้อมสำหรับการซ้อม ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ทำการซ้อมได้ดีมากและทำงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วยโค้ช, นักกายภาพ, คิตแมน, หมอ, หมอนวด, เจ้าหน้าที่ ทุกคนที่ทำให้ทีมมาถึงจุดนี้”
“เราจะทำให้ดีที่สุด เราแพ้มาแล้วในการเจอกับเวียดนาม ในเกมที่เราทำได้ดี และหวังจะได้แก้ตัวกับพวกเขาในเกมนัดชิงชนะเลิศ หลังจากนี้ ก็ต้องวิเคราะห์พวกเขา ว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร โดยฉพาะนักเตะใหม่ที่ตามมาสมทบ และสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด”
สำหรับ ทีมชาติไทย จะรอพบผู้ชนะระหว่าง ติมอร์ เลสเต หรือ เวียดนาม ในนัดชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง True4U
