“กองถ่าย”ต่างชาติ จ่อคิวเข้าไทยถ่ายหนังอีก 4-5 เรื่อง ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ

News

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.  นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า  กระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลจากนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์จากต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทย (คณะที่ 2) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ระบุ ว่าประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายสำคัญของการคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ ด้วยกฏระเบียบที่เอื้อต่อการถ่ายทำ ขั้นตอนที่รวดเร็ว และมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำ  โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564  มีภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในไทยแล้วจำนวน 26 เรื่อง ทำรายได้เข้าประเทศแล้วกว่า 1,183 ล้านบาท โดยปัจจุบัน มีคณะถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีมูลค่าการลงทุนตั้งแต่เรื่องละหลักหลายร้อยล้านบาท จนถึงหนึ่งพันล้านบาท จ่อคิวขอเข้ามาถ่ายทำในไทยอย่างน้อย 4-5 เรื่องแล้ว

นายธานี กล่าวอีกว่า  สาเหตุที่ทำให้ไทยเป็นหมุดหมายสำคัญของคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศมีอยู่หลายประการ อาทิ 1.ระยะเวลาขออนุญาตถ่ายทำมีความรวดเร็ว ถ้าเอกสารครบถ้วน จะได้รับอนุมัติภายในไม่เกิน 5 วันทำการ เพราะคณะพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ฯ มีคณะกรรมการ 3 ชุด เตรียมไว้รองรับ ซึ่งจะประชุมทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ทำให้การพิจารณามีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก  2.ทีมงานไทยมีทักษะและประสบการณ์การทำงานกับกองถ่ายระดับโลกจากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮอลลีวู้ด ปัจจุบันไทยมีสตูดิโอและอุปกรณ์การถ่ายทำที่มีคุณภาพและครบครัน  3.ไทยมีสถานที่และภูมิทัศน์ที่สวยงาม และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม  4.มีมาตรการสนับสนุนการถ่ายทำ คือ ถ้าหนังเรื่องใดมีการลงทุนด้วยงบประมาณเกิน 50 ล้านบาท มีบทที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย และใช้ทีมงานไทยเป็นส่วนใหญ่ จะมีระบบคืนเงินร้อยละ 15-20

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ นับตั้งแต่ที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย กองถ่ายต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทย ยังไม่พบผู้ที่ติดเชื้อโควิด และคณะทั้งหมดได้ผ่านกระบวนการคัดกรอง กักตัว และตรวจหาเชื้อตามมาตรการของรัฐบาลทุกประการ ทั้งหมดนี้ถือได้ว่าในยุคนิวนอร์มอล ธุรกิจอุตสาหกรรมถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยนั้นยังมีความแข็งแกร่ง เป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้านหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ และจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยในยุคหลังโควิดต่อไป

https://www.dailynews.co.th/politics/836524