โชคชะตาบันดาลใจ: หนุ่มเลี้ยงปลา-ทำนา ถูกรางวัลที่ 1 รับโชคใหญ่ เตรียมแบ่งเงินดูแลครอบครัว”

ข่าวด่วนวันนี้

วันที่ 17 มิถุนายน 2568 – เรื่องราวความโชคดีของหนุ่มเกษตรกรผู้ขยันจากจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้รับฟังเรื่องราว เมื่อเขาถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้านบาท ในช่วงเวลาที่กำลังลงทุนเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม

นายวรวุฒิ ย้อยแสง หรือเจม ชายหนุ่มวัยทำงานผู้มีอาชีพทำนาและเลี้ยงปลา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 10 บ้านคลอง 19 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการไปร่วมงานฌาปนกิจศพของแม่เพื่อนจะนำมาซึ่งโชคลาภครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขาถูกรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2568 จากเลข 507392 ทำให้เขาได้รับเงินรางวัลถึง 6 ล้านบาท

จากคำบอกเล่าของนายวรวุฒิต่อผู้สื่อข่าว เขาได้เปิดเผยถึงที่มาของสลากใบนี้ว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เขาได้เดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพแม่ของเพื่อนที่วัดเนินบาก ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างอยู่ที่งาน เขาได้เห็นแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่บริเวณนั้น ด้วยความที่อยากซื้อเลขอายุของผู้เสียชีวิตซึ่งมีอายุ 93 ปี แต่เมื่อเข้าไปถามกลับพบว่าเลข 93 หมดแล้ว

“แม่ค้าบอกว่าเลข 93 หมดแล้ว แต่แนะนำว่าเนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ให้ลดลงเป็น 92 แทน ซึ่งเหลือแค่ใบเดียวเท่านั้น ผมเลยตัดสินใจซื้อไว้ เป็นเลข 507392” นายวรวุฒิเล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น

ในวันที่สลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัล (16 มิถุนายน 2568) นายวรวุฒิได้ตรวจสลากของตนเองเวลาประมาณ 16.40 น. เมื่อพบว่าตัวเลขบนสลากตรงกับรางวัลที่ 1 เขารู้สึกตกใจและไม่เชื่อสายตาตัวเอง จนต้องตรวจซ้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

“ตอนที่ตรวจครั้งแรก ผมคิดว่าฝันไปหรือเปล่า ต้องตรวจอีกรอบหนึ่งถึงจะมั่นใจ พอเห็นว่าถูกจริงๆ ผมร้องเฮดังลั่นบ้านเลย” นายวรวุฒิเล่าถึงช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นนั้น

ภรรยาของเขา นางสาวอลิสา แสงจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนทำนาและเลี้ยงปลาด้วยกัน ก็ร่วมแสดงความยินดีและตื่นเต้นไปกับสามี ทั้งคู่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีโชคลาภเช่นนี้เข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กำลังต้องการเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ

เกษตรกรหนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์

นายวรวุฒิเปิดเผยว่า ตนเองและภรรยากำลังอยู่ในช่วงลงทุนประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทั้งการทำนาและการเลี้ยงปลา ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนและเงินทุนพอสมควร แต่ด้วยทุนทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้การขยายกิจการเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ผมกับภรรยาทำงานหนักมาตลอด ทั้งทำนาและเลี้ยงปลา แต่ด้วยต้นทุนที่น้อย ทำให้การขยายกิจการเป็นไปได้ช้า ไม่เคยคิดว่าจะมีโชคลาภแบบนี้เข้ามาในชีวิต” นายวรวุฒิกล่าวด้วยความปลื้มปีติ

เรื่องราวของนายวรวุฒิสะท้อนให้เห็นถึงความมุมานะของเกษตรกรไทยที่ต้องต่อสู้กับความยากลำบากในการประกอบอาชีพ เนื่องจากการทำเกษตรกรรมในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน ราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอน และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

แผนการบริหารเงินรางวัล

สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคือวิธีคิดและการวางแผนการใช้เงินรางวัลของนายวรวุฒิ แม้จะได้รับเงินก้อนใหญ่ถึง 6 ล้านบาท แต่เขาไม่ได้มีแผนที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตไปจากเดิมมากนัก

นายวรวุฒิเปิดเผยว่า เขาได้วางแผนการบริหารเงินรางวัลออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่:

  1. ส่วนแรก: นำไปลงทุนต่อยอดในอาชีพที่ทำอยู่ คือการทำนาและเลี้ยงปลา เพื่อขยายกิจการให้มีความมั่นคงมากขึ้น
  2. ส่วนที่สอง: แบ่งให้พ่อแม่และพี่น้องเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณ
  3. ส่วนที่สาม: เก็บไว้ใช้ยามจำเป็น เป็นเงินสำรองสำหรับอนาคต

“เงินรางวัลนี้จะช่วยให้ผมมีทุนในการขยายกิจการได้มากขึ้น ผมตั้งใจจะนำไปลงทุนเพิ่มพื้นที่ทำนาและขยายบ่อเลี้ยงปลาให้ใหญ่ขึ้น ส่วนหนึ่งก็จะแบ่งให้พ่อแม่และพี่น้อง เพราะท่านเหล่านั้นเป็นกำลังใจและเป็นแรงสนับสนุนผมมาตลอด และที่สำคัญ ผมจะเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับอนาคตและยามฉุกเฉิน” นายวรวุฒิกล่าวถึงแผนการใช้เงิน

การรับเงินรางวัล

ในวันที่ 17 มิถุนายน 2568 นายวรวุฒิและภรรยาได้เดินทางมาที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขึ้นเงินรางวัล โดยได้นำสลากที่ถูกรางวัลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว เงินรางวัลได้ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของนายวรวุฒิเรียบร้อยแล้ว

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายวรวุฒิได้แสดงความรู้สึกว่ารู้สึกตื่นเต้นและยังไม่หายตกใจกับโชคลาภที่เข้ามาในชีวิตอย่างไม่คาดฝัน แต่เขาก็ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้เงินรางวัลเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและนิสัยของเขา

“ผมจะยังคงทำงานหนักเหมือนเดิม เพียงแต่มีทุนที่จะขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น” นายวรวุฒิกล่าวย้ำ

เสียงจากคนในชุมชน

เมื่อข่าวการถูกรางวัลของนายวรวุฒิแพร่กระจายไปในชุมชนบ้านคลอง 19 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ก็มีเพื่อนบ้านและคนรู้จักแวะเวียนมาแสดงความยินดีกับครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย

นายสมชาย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของนายวรวุฒิ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “วรวุฒิเป็นคนขยันมาก ตื่นแต่เช้าไปดูแลนาและบ่อปลาทุกวัน ไม่เคยเห็นเขาเกียจคร้านหรือหยุดพักเลย ดีใจด้วยที่เขาได้รับโชคลาภครั้งนี้ เขาสมควรได้รับจริงๆ”

นางจินตนา (นามสมมติ) ญาติผู้ใหญ่ของนายวรวุฒิ กล่าวเสริมว่า “เจมเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เล็ก เขาเป็นคนกตัญญู รักครอบครัว และทำงานหนักเพื่อสร้างอนาคตของตัวเอง เรื่องนี้เป็นเหมือนรางวัลจากฟ้าที่มอบให้กับคนดี”

มุมมองด้านเศรษฐกิจเกษตรกร

เรื่องราวของนายวรวุฒิไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของโชคลาภส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงของเกษตรกรไทยในปัจจุบัน ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในภาคเกษตรกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูง

ดร.สมศักดิ์ วิทยาธรรม นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ให้ความเห็นว่า “เกษตรกรไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอน และสภาพอากาศที่แปรปรวน การมีเงินทุนที่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและยืนหยัดในอาชีพนี้ได้”

“กรณีของนายวรวุฒิเป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารจัดการเงินรางวัล โดยเฉพาะการนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนต่อยอดในอาชีพที่ทำอยู่ และการเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับอนาคต นี่คือแนวคิดการบริหารการเงินที่ฉลาดและมีวิสัยทัศน์” ดร.สมศักดิ์กล่าวเสริม

สถิติการถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เปิดเผยสถิติการออกรางวัลในปี 2568 ว่า มีผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 จำนวนหลายรายในแต่ละงวด โดยส่วนใหญ่มักเป็นประชาชนทั่วไปที่ซื้อสลากเป็นประจำหรือซื้อตามโอกาสพิเศษ

ในงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2568 มีผู้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ราย โดยนายวรวุฒิเป็นหนึ่งในผู้โชคดีเหล่านั้น ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งยังไม่ได้มาขึ้นเงินรางวัล

นายสุชาติ พงศ์สุวรรณ โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ถูกรางวัลทุกท่าน และขอให้ใช้เงินรางวัลอย่างมีสติและเกิดประโยชน์สูงสุด เราได้เห็นหลายกรณีที่ผู้ถูกรางวัลนำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็มีหลายกรณีที่ผู้ถูกรางวัลนำเงินไปลงทุนและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต เช่นกรณีของนายวรวุฒิที่มีการวางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ”

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน

นางสาวศิริวรรณ โชติรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ควรมีการวางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบและไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเกินตัว

“สิ่งสำคัญคือการรักษาความลับเรื่องการถูกรางวัล ไม่ประกาศให้คนทั่วไปรู้มากเกินไป เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงหรือขอยืมเงิน จากนั้นควรแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้ เช่น การลงทุน การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการเก็บออม” นางสาวศิริวรรณแนะนำ

“การนำเงินไปลงทุนควรเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง ไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง” นางสาวศิริวรรณกล่าวเสริม

ความเชื่อเรื่องโชคลาภในสังคมไทย

เรื่องราวของนายวรวุฒิยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อเรื่องโชคลาภที่มีอยู่ในสังคมไทย โดยเฉพาะการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามเลขอายุของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในสังคมไทย

รศ.ดร.เสาวลักษณ์ สมานพงศ์ นักมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อธิบายว่า “ความเชื่อเรื่องการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามเลขอายุของผู้เสียชีวิตมีรากฐานมาจากความเชื่อเรื่องวิญญาณและการให้โชคของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเชื่อว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตจะให้โชคลาภแก่ผู้ที่มาร่วมงานศพและซื้อสลากตามเลขอายุของผู้เสียชีวิต”

“ในกรณีของนายวรวุฒิ แม้ว่าจะไม่ได้ซื้อเลขอายุที่ตรงกับผู้เสียชีวิต (93 ปี) แต่ได้ซื้อเลขที่ใกล้เคียง (92) ตามคำแนะนำของแม่ค้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในความเชื่อ และการตีความความเชื่อให้เข้ากับสถานการณ์” รศ.ดร.เสาวลักษณ์อธิบายเพิ่มเติม

ความฝันของเกษตรกรหนุ่ม

นายวรวุฒิเปิดเผยถึงความฝันในอนาคตว่า นอกจากการขยายกิจการทำนาและเลี้ยงปลาแล้ว เขายังมีความฝันที่จะสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวและช่วยเหลือชุมชนที่เขาอาศัยอยู่

“ผมอยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อแม่ และอยากส่งน้องๆ เรียนหนังสือให้สูงๆ เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี นอกจากนี้ ผมยังอยากแบ่งปันความรู้ด้านการเกษตรให้กับคนในชุมชน เพื่อให้ทุกคนมีอาชีพที่มั่นคง” นายวรวุฒิกล่าวถึงความฝันในอนาคต

ภรรยาของเขา นางสาวอลิสา เสริมว่า “เราไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิตมากนัก เพียงแต่อยากให้ชีวิตมีความมั่นคงมากขึ้น และอยากมีลูกสักคนเพื่อจะได้สืบทอดอาชีพเกษตรกรต่อไป”

บทสรุป: โชคลาภกับการดำเนินชีวิต

เรื่องราวของนายวรวุฒิ ย้อยแสง เกษตรกรหนุ่มผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้านบาท เป็นตัวอย่างที่ดีของการรับมือกับโชคลาภที่เข้ามาในชีวิตอย่างไม่คาดฝัน ด้วยความมีสติและวิสัยทัศน์ที่ดี เขาวางแผนการใช้เงินรางวัลอย่างรอบคอบ โดยแบ่งเป็นส่วนๆ ทั้งการลงทุนในอาชีพที่ทำอยู่ การแบ่งปันให้ครอบครัว และการเก็บออมไว้ใช้ในอนาคต

การรับมือกับโชคลาภของนายวรวุฒิสะท้อนให้เห็นถึงความมีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้เขาสามารถนำเงินรางวัลนี้ไปสร้างประโยชน์และความมั่นคงให้กับชีวิตได้อย่างแท้จริง

เรื่องราวนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่กำลังต่อสู้กับความยากลำบากในชีวิต ให้เห็นว่าโชคลาภอาจเข้ามาในชีวิตได้เสมอ แต่สิ่งสำคัญคือการมีสติและการวางแผนที่ดีเมื่อได้รับโอกาสนั้น

แม้ว่าการถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นเรื่องของโชคและความบังเอิญ แต่การบริหารจัดการเงินรางวัลอย่างชาญฉลาดคือสิ่งที่จะทำให้โชคลาภนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน ดังเช่นที่นายวรวุฒิกำลังจะทำ

“โชคลาภเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในชีวิต เมื่อมันเข้ามา เราต้องใช้มันอย่างมีสติและเกิดประโยชน์มากที่สุด” นายวรวุฒิทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม พร้อมก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางชีวิตที่สดใสกว่าเดิม ด้วยความฝันและความหวังที่ยิ่งใหญ่ขึ้น