วันที่ 21 มิถุนายน 2568 – เหตุการณ์สำคัญทางศาสนาและสังคมได้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครพนม เมื่อ พลเอก บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะเดินทางไปถวายพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารสมัยพระชัยวรมันให้แก่วัดสว่างสุวรรณาราม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นการสร้างศรัทธาและยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่
ในวันดังกล่าว พลเอก บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมาพร้อมกับคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นภรรยา และคณะผู้ติดตาม เพื่อทำการถวายพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารสมัยพระชัยวรมันให้แก่วัดสว่างสุวรรณาราม
พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจ คือ เป็นพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารสมัยพระชัยวรมัน ทำด้วยโลหะสีสนิมเขียว มีความสูง 1.5 เมตร หน้าตักกว้าง 30 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมอย่างสูง จึงเป็นการถวายที่มีความหมายและคุณค่าอย่างยิ่ง
การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากคณะสงฆ์และข้าราชการ
ในพิธีดังกล่าวมีผู้ให้การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี พระราชสิริวัฒน์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม และเจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, พลตำรวจตรี ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 และข้าราชการทหารหลายนาย ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
การมาเยือนของแม่ทัพภาคที่ 2 ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับพุทธศาสนาและการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพกับชุมชนท้องถิ่น
ขั้นตอนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่คณะเดินทางมาถึงวัด พิธีกรรมได้เริ่มต้นด้วยการอัญเชิญพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารสมัยพระชัยวรมันแห่รอบอุโบสถทั้งหมด 3 รอบ ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานได้กราบไหว้และชื่นชมพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์
จากนั้น พลเอก บุญสิน และคณะได้เข้าไปกราบพระประธานในอุโบสถ เป็นการแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย ก่อนที่จะทำการอัญเชิญพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารขึ้นประดิษฐานอย่างเป็นทางการภายในศาลาประชุมสงฆ์ของวัด
พิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์และถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
ในขั้นตอนต่อมา พระสงฆ์จำนวน 9 รูป ได้ร่วมกันสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นมงคลและเป็นการอนุโมทนาบุญ ก่อนที่จะมีการถวายจตุปัจจัยไทยธรรมให้แก่คณะสงฆ์ เป็นการสะสมบุญกุศลและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระสงฆ์ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
หลังจากนั้น พลเอก บุญสิน ได้กล่าวถวายพระพุทธรูปให้แก่วัดต่อหน้าคณะสงฆ์อย่างเป็นทางการ โดยมีพระสงฆ์สวดเจริญชัยมงคลคาถาและสวดชยันโต เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมพิธี
พิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์
หนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญและประทับใจที่สุดของพิธี คือ การเบิกเนตรพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร โดยมี พระราชสิริวัฒน์ และ พลเอก บุญสิน ร่วมกันนำเทียนยาว 1 คู่ จุ่มใส่น้ำมะพร้าว แล้วทำการเบิกเนตรพระพุทธรูปอย่างเป็นพิธี
พิธีเบิกเนตรนี้ถือเป็นการให้พระพุทธรูปมี “ชีวิต” ทางจิตวิญญาณ และเป็นการเปิดโอกาสให้พระพุทธรูปสามารถประทานพรและคุ้มครองแก่ผู้ที่มากราบไหว้บูชาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การอนุโมทนาบุญและปะพรมน้ำมนต์
หลังจากพิธีเบิกเนตรเสร็จสิ้น ประธานสงฆ์ได้กล่าวสัมโมทนียกถาและอนุโมทนาบุญ แล้วจึงมีการกรวดน้ำรับศีลรับพร โดย พระราชสิริวัฒน์ ได้ปะพรมน้ำมนต์ให้แก่ผู้มาร่วมพิธีกว่า 300 คน ที่มาร่วมงานในวันนั้น เป็นการให้พรและสร้างความเป็นมงคลแก่ทุกคน
นอกจากนี้ยังมีการหว่านพระธาตุที่อยู่ในองค์พระพุทธรูปให้พุทธศาสนิกชนได้เก็บไว้บูชา ซึ่งถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าทางจิตวิญญาณอย่างสูง และเป็นที่ปรารถนาของชาวพุทธทั่วไป
การมอบวัตถุมงคลและของที่ระลึก
ในช่วงสุดท้ายของพิธี พระราชสิริวัฒน์ ได้มอบวัตถุมงคลเป็นเหรียญพระธาตุพนม จำนวน 1,000 เหรียญ และพระบูชาจำนวนหนึ่งให้แก่ พลเอก บุญสิน เป็นของที่ระลึกและเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ที่มีศรัดธา
นอกจากนี้ยังมีการมอบผ้าลายมุกผ้าพื้นเมืองให้แก่คุณสุพางค์พรรณ ภรรยาแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการแสดงความเคารพและเป็นของที่ระลึกจากการมาเยือนในครั้งนี้
ต่อมา พระอาจารย์ชาตรี จารุธัมโม จากวัดโพนสิม บ้านเสียวสงคราม อำเภอศรีสงคราม ได้มอบวัตถุมงคลเหรียญท้าวเวชสุวรรณ จำนวน 300 เหรียญ และพระอุปคุตให้แก่แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการเพิ่มพูนความเป็นมงคลและเป็นการแสดงความเคารพจากคณะสงฆ์
พิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีอีสาน
หลังจากพิธีทางพุทธศาสนาเสร็จสิ้น มีการจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีอีสานโดยพราหมณ์ เป็นการผสมผสานระหว่างพิธีกรรมทางพุทธศาสนาและประเพณีท้องถิ่น แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภาคอีสาน
ระหว่างพิธีบายศรีสู่ขวัญ ข้าราชการและประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมพิธีได้เข้าแถวต่อคิวเพื่อนำฝ้ายมาผูกข้อมือให้แก่ พลเอก บุญสิน และภรรยา เป็นการแสดงความเคารพ สร้างขวัญกำลังใจ และให้การสนับสนุน
ในช่วงเวลานี้ยังมีประชาชนหลายคนเข้ามาโอบกอดและถ่ายภาพร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการแสดงความรักและความศรัดธา มีชาวบ้านคนหนึ่งได้นำตะกรุดมามอบใส่มือซ้ายของแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อให้เป็นสิ่งปกป้องคุ้มภัยในการปฏิบัติหน้าที่
การให้สัมภาษณ์เรื่องสถานการณ์ชายแดน
หลังจากพิธีเสร็จสิ้น พลเอก บุญสิน ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือน่าเป็นห่วง การนำมาสู่การใช้อาวุธซึ่งกันและกันยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไร
หลังจากมีการปรับกำลังที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี สถานการณ์ยังปกติดี เพียงแต่กำลังทั้งสองฝ่ายยังอยู่และยังไม่มีอะไรคุกคาม ขณะที่กำลังฝ่ายกัมพูชาและกำลังของไทยยังอยู่ในเขตแดนของตนเอง
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันไม่หนักใจ เราต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ ส่วนการเมืองทางรัฐบาลก็ต้องแก้ไป หน้าที่ของกองทัพคือปกป้องอธิปไตย โดยหลักแล้วต้องพูดคุยกันกับกำลังทหารในพื้นที่ของไทยและกัมพูชาอย่างสม่ำเสมอ
การตอบคำถามเรื่องความเสี่ยงและนโยบายรัฐบาล
เมื่อมีการสอบถามเรื่องการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้น พลเอก บุญสิน ตอบว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลกัมพูชาด้วย ส่วนการเมืองที่ยังไม่นิ่งนั้นไม่มีผลกับการปกป้องอธิปไตย
เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องแก้ไขในส่วนของการเมือง ส่วนกองทัพดูแลอธิปไตยซึ่งไม่กระทบ ต้องแยกกันปฏิบัติอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกัน โดยกองทัพต้องดูแลมาตรการตามแนวชายแดนอยู่แล้ว
แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนทั่วประเทศให้มั่นใจในขีดความสามารถและความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยของทั้ง 4 เหล่าทัพ โดยเชื่อมั่นว่ายังคงรักษาดินแดนของชาติได้ ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร กองทัพจะดูแลอธิปไตยอย่างดีที่สุด
การเคลียร์ใจหลังพบนายกรัฐมนตรี
เมื่อมีการสอบถามเรื่องการพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา พลเอก บุญสิน กล่าวว่า ไม่ได้เคลียร์ใจอะไร และไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ตามภาพข่าวที่นายกรัฐมนตรีขอโทษที่ทำคลิปหลุด ท่านโทรศัพท์มาขอโทษวันแรกแล้ว
ตนเองไม่ได้คิดอะไร ตนทำตามหน้าที่ ส่วนท่านก็ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ตนไปต้อนรับท่านก็ทำตามหน้าที่ ไม่มีข้อขัดแย้งอะไร สำหรับที่มีการระบุว่าแม่ทัพเป็นคนละฝ่าย แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรและทำตามหน้าที่แม่ทัพเหมือนเดิม เพื่อปกป้องอธิปไตย
ปรากฏการณ์เลขเด็ดเกลี้ยงแผงลอตเตอรี่
ในระหว่างที่ พลเอก บุญสิน ประกอบพิธี ได้นำรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนตราโล่ 50606 ที่ได้นั่งมาเป็นประธานถวายพระพุทธรูป โดยจอดไว้ข้างพระธาตุแสงนคร ด้านทิศเหนือ พบว่ามีประชาชนและแม่ค้าลอตเตอรี่นำโทรศัพท์มือถือไปถ่ายทะเบียนรถไว้
ที่น่าสนใจคือ เลขท้าย 06 ของรถที่แม่ทัพภาคที่ 2 นั่งไปปฏิบัติภารกิจ ตรงกับเลขท้ายล่าง 06 งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ได้รับโชคลาภจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้ทำให้คอหวยนำเลขท้ายตัวเดิม 06, 60 พลิกกลับ 09, 90 และเลขหน้า 05, 50 ไปซื้อลอตเตอรี่ที่มาตั้งแผงในบริเวณวัด ส่งผลให้ลอตเตอรี่หมดเกลี้ยงในพริบตา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและศรัดธาของประชาชนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และการหาโชคลาภจากเหตุการณ์มงคลต่างๆ
การเยือนวัดสว่างสุวรรณารามของแม่ทัพภาคที่ 2 ในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจและเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกองทัพกับชุมชนท้องถิ่น และเป็นการอนุรักษ์สืบทอดประเพณีทางพุทธศาสนาที่มีคุณค่าสืบต่อไป