“แจ็คสัน” ซิว MVP 2 สมัยอายุน้อยสุด ทุบสถิติ “มาโฮมส์”

กีฬา

ลามาร์ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็ก บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ยังคงสร้างประวัติศาสตร์ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) สมัยที่ 2 ของอาชีพ ถึงแม้ปิดฉากฤดูกาล 2023 ต่ำกว่าความคาดหวังของตัวเอง

แจ็คสัน วัย 27 ปี กลายเป็น MVP 2 สมัย อายุน้อยสุดนับตั้งแต่รวมลีก เอเอฟแอล กับ เอ็นเอฟแอล เมื่อปี 1970 ทุบสถิติเดิมของ แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ประมาณ 9 เดือน

แจ็คสัน ได้รับเสียงโหวตอันดับ 1 แบบแลนด์สไลด์ 49 จาก 50 เสียง ขาดเพียง 1 เสียง ผลการตัดสินจะเป็นเอกฉันท์ เหมือนปี 2009 ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ต่อจาก ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กระดับตำนาน ที่ได้รับเสียงโหวต 50 เสียง

แจ็คสัน ที่เพิ่งต่อสัญญา 5 ปี 260 ล้านเหรียญสหรัฐ (ล้านบาท) เมื่อ 9 เดือนก่อน กล่าว “ผมขอขอบคุณ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ที่เราตกลงสัญญากันได้, ผู้เล่นทีมบุก, ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน คำขอบคุณคงไม่เพียงพอสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำ ผมไม่สามารถบล็อกคู่แข่งเอง, รับบอลเอง และทำทุกๆ อย่าง รางวัลนี้เป็นรางวัลของทีมอย่างแท้จริง”

ส่วนเสียงโหวตอันดับ 1 เพียงเสียงเดียว ตกเป็นของ จอช อัลเลน ควอเตอร์แบ็ก บัฟฟาโล บิลล์ส

แจ็คสัน ผู้พ่ายแก่ มาโฮมส์ และ ชีฟส์ รอบชิงชนะเลิศ สายเอเอฟซี (AFC) เป็นผู้เล่น MVP มากกว่า 1 สมัย คนที่ 9 แต่เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล

สำหรับคนอื่นๆ ที่คว้า MVP มากกว่า 1 สมัย นับตั้งแต่ปี 1967 ได้แก่ เพย์ตัน แมนนิง (5), แอรอน ร็อดเจอร์ส (4), ทอม เบรดี (3), เบร็ตต์ ฟาฟร์ (3), แพทริค มาโฮมส์ (2), โจ มอนทานา (2) และ สตีฟ ยัง (2)

แจ็คสัน ซิว MVP สมัยแรกปี 2019 ด้วยผลงานขว้าง 36 ทัชดาวน์ และสร้างสถิติวิ่งระยะมากสุด 1,206 หลา เฉพาะควอเตอร์แบ็ก แต่ครั้งนี้ แจ็คสัน ได้รับเลือกเนื่องจากเป็นผู้เล่นดีสุดของ เรฟเวนส์ ทีมสถิติดีสุดของ NFL ช่วงฤดูกาลปกติ

นอกเหนือจากสร้างสถิติขว้างระยะและเปอร์เซ็นต์คอมพลีตมากสุดของอาชีพ 3,678 หลา กับ 67.2 ตามลำดับ แจ็คสัน ยังเป็นแม่ทัพพา เรฟเวนส์ จบเรกูลาร์ ซีซัน สถิติ ชนะ 13 แพ้ 4 เป็นควอเตอร์แบ็ก MVP คนที่ 3 นับตั้งแต่รวมลีก ที่ไม่มีตัววิ่ง 1,000 หลา หรือปีกรับบอล 1,000 หลา ต่อจาก จอห์น เอลเวย์ (1987) และ ฟาฟร์ (1996)

ส่วนรางวัลอื่นๆ คริสเตียน แม็คแคฟฟรีย์ รันนิงแบ็ก กลายเป็นผู้เล่น ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส คนแรก ซึ่งคว้ารางวัลผู้เล่นทีมบุกยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ เจอร์รี ไรซ์ ปีกระดับตำนาน ปี 1993 โดยวิ่งได้ระยะ 1,459 หลา ระยะรวมรับบอล 2,023 หลา 21 ทัชดาวน์

ไมล์ส การ์เร็ตต์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ คลีฟแลนด์ บราวน์ส คว้ารางวัลผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยม จาก 14 แซ็ก 17 แท็คเกิล ซึ่งส่งผลให้คู่แข่งเสียระยะ และ ทำให้เกิดการฟัมเบิล 4 ครั้ง, เควิน สเตฟานสกี เฮดโค้ช บราวน์ส คว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยม ในฐานะผู้พา คลีฟแลนด์ เข้าเพลย์ออฟ โดยใช้งานควอเตอร์แบ็กตัวจริง 5 คน

รางวัลคัมแบ็กแห่งปี ตกเป็นของ โจ แฟล็คโก ควอเตอร์แบ็กตัวเก๋า กลับมาช่วย บราวน์ส เข้าเพลย์ออฟครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 หลังว่างงาน 2 เดือนครึ่ง โดยขว้าง 1,616 หลา 13 ทัชดาวน์ ตลอด 5 เกมฤดูกาลปกติ ชนะ 4 เกมจากทั้งหมด

ส่วน ซี.เจ. สเตราด์ ควอเตอร์แบ็กดราฟต์อันดับ 2 ฮุสตัน กับ วิลล์ แอนเดอร์สัน จูเนียร์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ ดราฟต์อันดับ 3 ของ ฮุสตัน เท็กแซนส์ ซิวรางวัลรุกกี้ทีมบุกและทีมรับยอดเยี่ยม ตามลำดับ