สรงน้ำ หลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ แห่กันแย่งจีวรไปบูชา ด้านคอหวยไม่พลาดส่อง “เลขเด็ด” ในพิธีลุ้นโชคงวด 2/5/68

ข่าวด่วนวันนี้

วันที่ 27 เมษายน 2568 ถือเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้จัดงานประเพณีสรงน้ำพระประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีพระครูยติธรรมานุยุต หรือ “หลวงพ่อแป๊ะ” เจ้าอาวาสวัดและเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นประธานในพิธี ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน และมีความสำคัญต่อชาวนครปฐมและพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ

พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์และบรรยากาศงาน

ตั้งแต่เช้าตรู่ วัดสว่างอารมณ์เต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมาร่วมงานกว่าพันคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความศรัทธาและความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา สาธุชนและบรรดาศิษยานุศิษย์จากหลายจังหวัดทั่วประเทศต่างมารวมตัวกันอย่างเนืองแน่น ภายในวัดได้จัดโรงทานมากกว่า 40 ร้าน ที่ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อแป๊ะต่างนำอาหารและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง สร้างบรรยากาศของการให้ทานและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

พิธีกรรมในวันสุดท้ายของสงกรานต์เริ่มต้นในช่วงเช้า โดยหลวงพ่อแป๊ะได้ประกอบพิธีสาวน้ำตาเทียนและลงยันต์หลังมือ พร้อมกับพิธีเปิดฟ้า เปิดดิน เปิดเมืองบาดาล ตามความเชื่อโบราณเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมงาน พิธีกรรมนี้ถูกจัดขึ้นด้วยความขลังและศักดิ์สิทธิ์ตามแบบฉบับของหลวงพ่อแป๊ะ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในวงการเกจิอาจารย์ของเมืองไทย

พิธีสรงน้ำพระ: ประเพณีสำคัญในช่วงสงกรานต์

หลังจากเที่ยงวัน ได้มีการจัดพิธีสรงน้ำพระอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงรวมทั้งสิ้น 108 รูป มาให้ชาวพุทธได้สรงน้ำขอพร ซึ่งตัวเลข 108 นี้มีความหมายพิเศษในพระพุทธศาสนา หมายถึง มงคล 108 ประการ หรือ ชื่อที่พุทธศาสนิกชนเรียกกิเลสทั้งปวงว่า “ตัณหา 108”

ในช่วงพิธีสรงน้ำพระ ผู้ร่วมงานต่างตั้งใจและสำรวมในการประกอบพิธี โดยเชื่อว่าการได้สรงน้ำพระจะช่วยชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต และเป็นการขอพรให้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองในปีใหม่ไทย

นอกจากนี้ยังมีพิธีรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปี จำนวนกว่า 100 คน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของไทยที่สืบทอดกันมา หลวงพ่อแป๊ะได้มอบถังน้ำขนาดใหญ่และข้าวสาร แจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุที่มาร่วมพิธีทุกคน เพื่อเป็นการอนุเคราะห์และเป็นกำลังใจให้แก่ผู้สูงวัย ถือเป็นการแสดงความเมตตาและความปรารถนาดีของหลวงพ่อที่มีต่อญาติโยม

หลวงพ่อแป๊ะ: เกจิดังผู้เป็นที่เคารพศรัทธา

หลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธทั่วประเทศ ด้วยวัย 67 ปี ท่านได้บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและสังคมมาอย่างยาวนาน เป็นที่รู้จักในด้านพิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่มีความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์

ตามประเพณีที่ปฏิบัติมาทุกปี หลวงพ่อแป๊ะจะสรงน้ำเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดนครปฐม ทำให้ผู้คนต่างรอคอยโอกาสพิเศษนี้เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์

เมื่อถึงเวลาที่หลวงพ่อแป๊ะเปิดให้สรงน้ำเป็นการส่วนตัว ท่านได้ยืนขึ้นบนโต๊ะกลางลานด้านข้างศาลาการเปรียญให้สาธุชนและประชาชนได้สรงน้ำ ระหว่างนั้นโฆษกวัดต้องประกาศเตือนผู้ร่วมพิธีอย่างต่อเนื่องว่า “ขอให้สาธุชนอย่าเอาน้ำเย็นมารดน้ำหลวงพ่อ เพราะท่านไม่ชอบอากาศเย็น กลัวว่าท่านจะเป็นไข้” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่ศิษยานุศิษย์มีต่อหลวงพ่อ

เหตุการณ์แย่งจีวร: ศรัทธาที่ล้นหลาม

ในระหว่างที่สาธุชนกว่าพันคนรุมล้อมเข้าสรงน้ำพระ เกิดเหตุการณ์ที่แสดงถึงความศรัทธาอย่างล้นหลาม เมื่อมีสาธุชนหลายรายต้องการขอจีวรจากหลวงพ่อแป๊ะไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล ด้วยความกังวลว่าผู้คนจะเข้ามายื้อแย่งจีวรจากตัวท่านโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ หลวงพ่อแป๊ะจึงตัดสินใจถอดจีวรและโยนออกไปให้ศิษยานุศิษย์

ทันทีที่จีวรลอยออกไป ผู้คนต่างรุมล้อมและแย่งกันอย่างชุลมุน บางคนถึงกับใช้มือดึงฉีกจีวรเป็นชิ้นๆ เพื่อแบ่งกันนำไปบูชา ด้วยความเชื่อว่าจะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิต แม้จะเป็นเพียงชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ตาม เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาอย่างสูงที่ประชาชนมีต่อหลวงพ่อแป๊ะ

พิธีเดินสะพานบุญ: ประเพณีโบราณเพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

หลังจากพิธีสรงน้ำเสร็จสิ้น มีการจัดพิธีเดินสะพานบุญ ซึ่งเป็นพิธีแบบโบราณที่หาชมได้ยาก โดยสาธุชนจำนวนหลายร้อยคนนอนคว่ำหน้าเรียงต่อกันเป็นแถวยาวคล้ายสะพาน มีผ้าคลุมไว้ที่หลังและมีผ้าสีแดงวางทับอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นหลวงพ่อแป๊ะซึ่งถือเป็นเกจิอาจารย์ จะถือไม้เท้าเดินบนหลังของผู้ที่นอนเรียงกัน

ตามความเชื่อแล้ว พิธีนี้จะช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บและสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิตของผู้ที่ร่วมพิธี นอกจากนี้ ผ้าสีแดงที่หลวงพ่อแป๊ะเดินผ่านจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่ผู้คนจะนำไปบูชาที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป

พิธีสวดภาณยักษ์ใหญ่: ปัดเป่าสิ่งไม่ดีในปีใหม่

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในวันสุดท้ายของสงกรานต์ทุกปี หลวงพ่อแป๊ะจะจัดพิธีสวดภาณยักษ์ขึ้น เพื่อปัดเป่าป้องกันภัยอันตรายและสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปจากชีวิตของผู้ร่วมพิธี พร้อมทั้งอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาลความเจริญรุ่งเรืองในวันเริ่มปีใหม่ไทย และให้เกิดความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

ในปีนี้ วัดสว่างอารมณ์ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดดังต้นตำรับสวดภาณยักษ์ที่มีชื่อเสียงในความเข้มขลังและทรงพลังมาประกอบพิธี มีสาธุชนแย่งกันเข้าคิวเพื่อร่วมพิธีกว่า 2,000 คน จนต้องจัดหาที่นั่งเพิ่มเติม ทำให้บริเวณลานวัดเต็มไปด้วยผู้คนอย่างแน่นขนัด

คอหวยกับเลขเด็ด: ความเชื่อและความศรัทธาในโชคลาภ

ในงานประเพณีสรงน้ำพระครั้งนี้ นอกจากการมาร่วมพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ยังมีบรรดาสาธุชนและนักเสี่ยงโชคจำนวนมากที่มารอลุ้นเลขเด็ดเพื่อนำไปเสี่ยงโชคในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2568

ผู้ที่มาร่วมงานต่างนำตัวเลขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานมาตีความเป็นเลขเด็ด เช่น อายุของหลวงพ่อแป๊ะ ได้เลข 67 และ 68 หรือวันที่สรงน้ำ ได้เลข 27 และ 72 นอกจากนี้ยังมีเลขประทัดที่จุดก่อนเริ่มพิธี ซึ่งได้เลข 049 และ 26 ตามความเชื่อของคนไทยที่มองว่าเลขที่ได้จากพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์มีโอกาสจะเป็นเลขที่ให้โชคลาภได้

สรุป: ประเพณีที่ทรงคุณค่าสำหรับสังคมไทย

ประเพณีสรงน้ำพระและพิธีกรรมในวันสุดท้ายของสงกรานต์ที่วัดสว่างอารมณ์ นับเป็นประเพณีที่ทรงคุณค่าและสำคัญต่อสังคมไทย เป็นการสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามที่บรรพบุรุษได้สั่งสมมา ทั้งยังเป็นการรวมพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนให้มาอยู่ร่วมกัน ได้ทำบุญ ได้แสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและผู้สูงอายุ และได้ร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่เชื่อว่าจะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิต

แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่คุณค่าของประเพณีและพิธีกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ในใจของคนไทย เป็นสิ่งที่ช่วยหล่อหลอมจิตใจ และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้กับผู้คนในสังคม ซึ่งในปัจจุบันที่ผู้คนต่างเผชิญกับความเครียดและความกดดันจากการดำเนินชีวิต การได้มาร่วมงานบุญงานกุศลและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการพักผ่อนจิตใจและได้สัมผัสกับมิติทางจิตวิญญาณที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน