ส่องเลขเด็ดงานกตัญญูบูรพาจารย์ 20 ปี เกจิดัง หลวงปู่ทองดำ พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน

ข่าวด่วนวันนี้

วันที่ 13 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศอันคึกคักจากวัดท่าทอง ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีการจัดงานกตัญญูบูรพาจารย์ครบรอบ 20 ปี และครบรอบวันเกิด 128 ปีชาตกาลของพระนิมมานโกวิท หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ” พระอริยสงฆ์ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ

ภายในบริเวณมณฑปจัตุรมุข (พระนิมมานโกวิท) อันเป็นสถานที่ประดิษฐานสรีระสังขารของหลวงปู่ทองดำ พระครูวิรุฬห์สุวรรณดิตถ์ (พระอาจารย์สมบัติ กนฺตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดท่าทองในปัจจุบัน ได้ทำหน้าที่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ร่วมกับนายบวร ทับแว่ว ประธานฝ่ายฆราวาส รวมถึงศิษยานุศิษย์และคณะกรรมการวัดท่าทองจำนวนมาก ร่วมกันจัดพิธีอันยิ่งใหญ่เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่ทองดำ ผู้ซึ่งได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548

งานเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 08.09 น. ด้วยพิธีบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอมทั้งต้นอันเป็นไม้คู่บารมีของหลวงปู่ทองดำ โดยมีพราหมณ์ประดิษฐ์ แก้วคำ เป็นเจ้าพิธี จากนั้นในเวลา 10.30 น. มีการเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ และในเวลา 11.00 น. มีการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์และสามเณร นอกจากนี้ ทางวัดยังได้จัดตั้งโรงทานเพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับประทานอาหารฟรีอีกด้วย

ประวัติอันน่าทึ่งของหลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ

นายบวร ทับแว่ว ประธานฝ่ายฆราวาส ได้เล่าถึงประวัติอันน่าประทับใจของหลวงปู่ทองดำให้ผู้สื่อข่าวฟัง หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ เป็นพระเกจิดังของภาคเหนือที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธาอย่างสูง ท่านเกิดเมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2441 ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ณ บ้านไซโรงโขน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรของนายบุญนาค และนางจ่าย เม่นพริ้ง ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 8 คน

เรื่องราวชีวิตของหลวงปู่ทองดำมีความพิเศษตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อท่านอายุได้เพียง 3 ขวบ บิดามารดาได้นำท่านไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ แห่งวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้น เมื่อหลวงพ่อเงินเห็นเด็กชายทองดำเป็นครั้งแรก ท่านได้เอ่ยวาจาอันมีความหมายลึกซึ้งว่า “ไอ้เด็กน้อยคนนี้เป็นเทวดามาเกิด ใครเลี้ยงก็ไม่ได้ มาเป็นลูกของเราเถิดนะ”

นับจากนั้น เด็กชายทองดำได้รับการอบรมสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ จากหลวงพ่อเงิน เมื่อเติบโตขึ้น บิดามารดาได้มารับกลับไปให้เล่าเรียนกับอาจารย์โต เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ และเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้อุปสมบทที่วัดวังหมู ตำบลหาดกรวด อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับฉายาว่า “ฐิตวัณโณ” ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 ท่านได้รับนิมนต์ให้มาจำพรรษาที่วัดท่าทอง ซึ่งเป็นวัดที่ท่านได้ใช้ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์และบำเพ็ญสมณธรรมตลอดมา

หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ หรือเจ้าคุณพระนิมมานโกวิท ได้มรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 เวลา 21.19 น. ด้วยโรคไตเสื่อมและติดเชื้อทางเดินหายใจ สิริอายุรวม 108 ปี 5 เดือน 20 วัน พรรษาที่ 86 นับเป็นพระอริยสงฆ์ที่ได้มีชีวิตอยู่ในห้วงเวลาของ 5 แผ่นดิน ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลที่ 9

ท้าวเวสสุวรรณไม้จันอิน: มรดกศักดิ์สิทธิ์คู่วัดท่าทอง

หนึ่งในจุดเด่นของงานครั้งนี้คือการบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณที่แกะสลักจากไม้จันอินทั้งต้น พราหมณ์ประดิษฐ์ แก้วคำ เจ้าพิธี ได้ให้ข้อมูลว่า ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้แกะสลักจากต้นจันอินอายุกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นต้นไม้คู่บารมีของหลวงปู่ทองดำ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวัด ซึ่งเป็นทิศเดียวกับที่ประทับของท้าวเวสสุวรรณตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา

เมื่อต้นจันอินยืนต้นตายพรายแล้ว ทางวัดจึงได้นำมาแกะสลักเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณที่มีความสูงถึง 2.68 เมตร ซึ่งตรงกับเลขมงคลตามความเชื่อ มีฐานไม้จันอินรองรับสูงประมาณ 59 เซนติเมตร โดยแบบของท้าวเวสสุวรรณนี้ได้รับการออกแบบมาจากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ตามแบบฉบับช่างสิบหมู่

ลักษณะโดดเด่นของท้าวเวสสุวรรณองค์นี้อยู่ที่ดวงตาที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนจากที่อื่น และเขี้ยวจำนวน 4 ซี่ที่ไม่ติดอยู่กับปากแต่โดดเด่นออกมาอยู่ด้านนอก นอกจากนี้ยังมีจมูกใหญ่ ใบหน้าสวยงาม ประดับด้วยกระจก สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ภายในองค์ท้าวเวสสุวรรณบริเวณตรงหัวใจมีรังต่อที่ถูกสร้างทิ้งไว้ แม้ปัจจุบันจะไม่มีตัวต่อแล้ว แต่ตามความเชื่อถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี จะทำให้วัดท่าทองมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไปอย่างไม่เสื่อมคลาย

การนำต้นจันอินที่ตายแล้วมาสร้างคุณค่าใหม่เป็นท้าวเวสสุวรรณ นับเป็นการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าและความผูกพันระหว่างหลวงปู่ทองดำกับต้นไม้คู่บารมีของท่าน แม้หลวงปู่จะมรณภาพไปนานหลายปีแล้ว แต่ความเคารพศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อท่านยังคงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย

เลขเด็ดจากงานบูรพาจารย์: ความหวังของเหล่าคอหวย

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยเช่นนี้ นอกจากการมาร่วมงานเพื่อรำลึกถึงคุณความดีของหลวงปู่ทองดำแล้ว บรรดาคอหวยทั้งหลายก็ไม่พลาดโอกาสในการแสวงหาเลขเด็ดจากงานมงคลครั้งนี้ โดยได้สังเกตเห็นว่าผู้มาร่วมงานหลายคนได้เข้าไปส่องหาเลขเด็ดและล้วงลูกปิงปองที่ตั้งไว้ข้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ

จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว พบว่าเลขที่ได้จากการล้วงลูกปิงปองคือเลข 32 และ 23 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นเลขที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทองดำและจะนำโชคมาสู่ผู้ที่นำไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 เมษายน 2568 อันเป็นงวดแรกหลังเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย

นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ เล่าว่า “ทุกปีผมจะต้องมาร่วมงานที่วัดท่าทองในช่วงสงกรานต์ นอกจากจะได้กราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่ทองดำแล้ว ยังได้เลขเด็ดติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ปีที่แล้วผมเคยถูกหวยจากเลขที่ได้จากที่นี่ ปีนี้ก็หวังว่าจะได้โชคอีกครั้ง”

ด้านนางสมศรี (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดแพร่ กล่าวว่า “ดิฉันเป็นศิษย์หลวงปู่มาหลายสิบปี แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ความศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ เลขที่ได้จากงานบูรพาจารย์ครั้งนี้ ดิฉันเชื่อว่าเป็นเลขที่หลวงปู่ประทานให้ จะเอาไปซื้อหวยงวดวันที่ 16 แน่นอน”

ความกตัญญูและความศรัทธา: แรงยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ

การจัดงานกตัญญูบูรพาจารย์ครบรอบ 20 ปีของหลวงปู่ทองดำในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูของศิษยานุศิษย์ที่มีต่อครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่งในพระพุทธศาสนา

พระครูวิรุฬห์สุวรรณดิตถ์ (พระอาจารย์สมบัติ กนฺตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดท่าทองในปัจจุบัน กล่าวว่า “หลวงปู่ทองดำเป็นพระอริยสงฆ์ที่ได้สร้างคุณประโยชน์ไว้มากมายทั้งแก่พระพุทธศาสนาและแก่วัดท่าทอง ท่านเป็นตัวอย่างของการดำรงชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์อย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณธรรม การจัดงานครบรอบ 20 ปีในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสให้ทั้งพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน”

การที่มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่ยังคงมีต่อหลวงปู่ทองดำอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วถึง 20 ปี ความศรัทธานี้ไม่เพียงแต่เป็นแรงยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังที่ช่วยผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและการสืบทอดคำสอนของหลวงปู่ให้ยังคงอยู่ในจิตใจของชาวพุทธสืบไป

นอกจากนี้ การที่มีการจัดตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารให้แก่ผู้มาร่วมงาน ยังเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงปู่ทองดำในเรื่องของการให้ทาน ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา

งานกตัญญูบูรพาจารย์ครบรอบ 20 ปีของหลวงปู่ทองดำในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบทอดคำสอนและคุณธรรมของท่านให้ยังคงอยู่ในจิตใจของชาวพุทธสืบไป แม้ว่าบางคนอาจจะมาด้วยความหวังในเรื่องของเลขเด็ด แต่สิ่งที่ได้รับกลับไปนั้นอาจจะมีค่ามากกว่าตัวเลขที่จะนำไปเสี่ยงโชค นั่นคือความสงบใจและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่หลวงปู่ทองดำได้สั่งสอนและเป็นแบบอย่างไว้ตลอดชีวิตของท่าน