เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 บรรยากาศที่วัดดงตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เต็มไปด้วยความศรัดธาและความอาลัย เมื่อคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์จำนวนมากแห่กันมาร่วมในพิธีบำเพ็ญทักษิณานุปทาน เนื่องในวาระครบรอบวันมรณภาพปีที่ 16 ของพระครูพิศาลวรกิจ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันด้วยความเคารพว่า “หลวงพ่อเจือ” ปุสฺสวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดดงตาล ผู้เป็นที่เคารพศรัดธาของชาวอำเภอสองพี่น้องและจังหวัดใกล้เคียง

งานบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้การดูแลของ พระครูสมุห์นิพนธ์ จรณธัมโม เจ้าอาวาสวัดดงตาลปัจจุบัน และเจ้าคณะตำบลบางพลับ โดยมีคณะสงฆ์จากวัดต่างๆ ในอำเภอสองพี่น้องร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์และญาติโยมที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพ

พิธีกรรมทางศาสนาและการแจกทุนการศึกษา

พิธีบำเพ็ญทักษิณานุปทานในครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดดงตาล โดยเริ่มด้วยการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ตามด้วยการสวดมนต์ไตรสรณคมน์ และการฟังพระธรรมเทศนา ที่เน้นการระลึกถึงคุณงามความดีและผลงานของหลวงพ่อเจือที่ได้ทำเพื่อพุทธศาสนาและสังคม

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของงานคือการมอบทุนการศึกษา ให้กับนักเรียนโรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล (วโรสุธาประชาสรรค์) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่หลวงพ่อเจือได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ในท้องถิ่นได้รับการศึกษาที่ดี การมอบทุนในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 50 ทุน แต่ละทุนมีมูลค่า 5,000 บาท โดยเป็นเงินที่มาจากการบริจาคของศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัดธา

นอกจากการมอบทุนการศึกษาแล้ว ยังมีการบริจาคอุปกรณ์การเรียนการสอน หนังสือ เครื่องเขียน และเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อเจือที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและการพัฒนาเยาวชน

โรงทานเลี้ยงฟรีตลอดวัน ตามโครงการ อ.ป.ต.

การเปิดโรงทานแจกอาหารฟรี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาร่วมงาน โดยคณะศิษยานุศิษย์วัดดงตาลได้เตรียมอาหารคาวหวานหลากหลายชนิด ผลไม้สด น้ำดื่ม ขนมไทยโบราณ และเครื่องดื่มต่างๆ มาแจกจ่ายให้กับนักเรียน ชาวบ้าน และผู้มาร่วมงานทุกคนอย่างไม่เสียค่าใช้จ่าย

กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.) ตามพระดำริของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่มุ่งเน้นการสร้างความสามัคคีในชุมชน การแบ่งปันความรัก และการสืบทอดประเพณีทางศาสนา

ตลอดวันมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาร่วมรับประทานอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาพักกลางวันและเย็น ซึ่งมีทั้งชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมวัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรภาพ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของการให้และการแบ่งปันที่หลวงพ่อเจือได้ปลูกฝังไว้

ประวัติและผลงานของหลวงพ่อเจือ ปุสฺสวโร

พระครูพิศาลวรกิจ หรือ “หลวงพ่อเจือ” ปุสฺสวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแถบจังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ท่านมีนามเดิมว่า “นายทองเจือ ศรีเฟื่องฟุ้ง” เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2469 ณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ในครอบครวัเกษตรกรที่มีฐานะปานกลาง

ท่านได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่โรงเรียนวัดดงตาล ซึ่งในสมัยนั้นเป็นโรงเรียนประจำวัดที่มีครูสอนเพียงไม่กี่คน เมื่ออายุครบ 14 ปี ท่านได้แสดงความประสงค์ที่จะบรรพชาเป็นสามเณร โดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและญาติพี่น้อง

การบวชและชีวิตในกิจการสงฆ์

วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นวันสำคัญในชีวิตของท่าน เมื่อได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเต็มตัว ณ วัดดงตาล โดยมี พระครูวิสุทธิคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระครูสังวรคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ตั้งแต่วันอุปสมบทจนถึงวันมรณภาพ ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดดงตาลมาโดยตลอด เป็นเวลากว่า 63 พรรษา

ในปี พ.ศ. 2511 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดดงตาล และ เจ้าคณะอำเภอสองพี่น้อง ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นการยอมรับในคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และความเสียสละของท่านในการพัฒนาพุทธศาสนาและสังคม

ความเชี่ยวชาญทางวิทยาคมและการปฏิบัติธรรม

หลวงพ่อเจือเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของ ความเข้มขลังทางวิทยาคม การมีตบะสมาธิที่แก่กล้า และการปฏิบัติธรรมที่ลุ่มลึก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาการต่างๆ จากพระอาจารย์หลายรูป ทั้งในและนอกจังหวัด โดยเฉพาะการศึกษาพระไตรปิฎก การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และการศึกษาวิชาโบราณต่างๆ

ผลงานที่โดดเด่นของท่าน ได้แก่ การสร้างโรงเรียนอนุบาลวัดดongตาล เพื่อให้เด็กๆ ในท้องถิ่นได้รับการศึกษา การปรับปรุงและพัฒนาวัดดงตาลให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางศาสนา การจัดตั้งโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ และการส่งเสริมการประกอบอาชีพของชาวบ้านในพื้นที่

ท่านยังเป็นที่เคารพของพระคณาจารย์ร่วมยุคร่วมสมัย เนื่องจากความรอบรู้ในพระธรรมวินัย ความเข้าใจในวิถีชีวิตของชาวบ้าน และความสามารถในการให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ชาวบ้านเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว หรือปัญหาการประกอบอาชีพ

วาระสุดท้ายและการเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต หลวงพ่อเจือประสบปัญหาสุขภาพจากโรคชรา โดยมีอาการหายใจเหนื่อยหอบที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท่านได้เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี โดยมีคณะแพทย์และพยาบาลให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ในช่วงเช้าของวันนั้น เวลาประมาณ 10.00 น. ท่านมีไข้สูงขึ้น หายใจเหนื่อยหอบมากขึ้น และมีความดันโลหิตลดลง แม้คณะแพทย์จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ แต่อาการของท่านก็ทรุดหนักลงเรื่อยๆ

เวลา 10.30 น. ลมหายใจของท่านเริ่มอ่อนลง ชีพจรเต้นช้าลงและเบาลง จนในที่สุด เวลา 11.20 น. ท่านได้เสด็จดับขันธปรินิพพานอย่างสงบ ท่ามกลางการสวดมนต์ของคณะสงฆ์และการร่ำไห้ของศิษยานุศิษย์ที่อยู่เฝ้าข้างเคียง รวมสิริอายุ 82 ปี 62 พรรษา

หลังจากท่านเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีการจัด พิธีอัญเชิญน้ำหลวงสรงศพ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2552 เวลา 13.00 น. โดยมีเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี พระคณาจารย์ และศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ความเชื่อและเลขเด็ดในงวดประจำวันมรณภาพ

ประเพณีการ “ขอเลขเด็ด” จากเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาเป็นสิ่งที่หยั่งรากลึกในความเชื่อของคนไทย โดยเฉพาะในวันครบรอบมรณภาพของพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้

สำหรับงวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2568 คอหวยได้จับตาชุดตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อเจือและวันมรณภาพ ดังนี้

ชุดเลข 3 ตัว ที่น่าสนใจ:

• 215 (จากวันที่ 2 ตุลาคม ที่เกิดและวันที่ 15 มิถุนายน ที่สรงน้ำศพ)
• 815 (จากเดือนเกิดตุลาคม และวันที่ 15 มิถุนายน)
• 915 (จากเดือนมิถุนายน ที่ 9 และวันที่ 15)

ชุดเลข 2 ตัว ที่ได้รับความนิยม:

• 14-15-16 (จากวันครบรอบและวันที่เกี่ยวข้อง)
• 06-82-83-62 (จากอายุและพรรษาของหลวงพ่อ)
• 77-78-79 (จากการคำนวณปีเกิด พ.ศ. 2469)
• 97-98-99 (จากชุดเลขมงคลที่เกี่ยวข้องกับการเสด็จสู่สวรรคาลย)

นอกจากนี้ยังมีตัวเลขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันเดือนปีเกิด วันบวช วันแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของหลวงพ่อเจือ ที่หลายคนนำมาใช้อ้างอิงในการเสี่ยงโชคด้วยการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

ความหมายและคุณค่าของการครบรอบมรณภาพ

การจัดงานบำเพ็ญกุศลครบรอบมรณภาพ ไม่ใช่เพียงแค่การระลึกถึงผู้ล่วงลับ แต่เป็นการสืบทอดคำสอนและผลงานของท่านให้คงอยู่ต่อไป การที่ศิษยานุศิษย์รวมตัวกันมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม การแจกทุนการศึกษา การเปิดโรงทาน และการรวมกันสวดมนต์ทำวัตร เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูและการนำคำสอนของหลวงพ่อไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

ผลกระทบต่อชุมชนและสังคม จากการจัดงานในครั้งนี้มีหลายแง่มุม ทั้งการสร้างความสามัคคีในชุมชน การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา การส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมไทย และการเป็นแบบอย่างในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม

งานบำเพ็ญกุศลครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น คุณงามความดีของบรรพบุรุษ และความสำคัญของการอนุรักษ์พุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย

ความต่อเนื่องของผลงานและมรดกทางจิตวิญญาณ

แม้ว่าหลวงพ่อเจือจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 16 ปี แต่ ผลงานและคำสอนของท่านยังคงมีชีวิตชีวา ผ่านการดำเนินงานของวัดดงตาล โรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล และกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

โรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล (วโรสุธาประชาสรรค์) ที่หลวงพ่อเจือก่อตั้งขึ้น ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 300 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 20 คน โรงเรียนแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของชุมชน และยังคงรักษาปรัชญาการศึกษาที่เน้นการผสมผสานระหว่างความรู้สมัยใหม่กับหลักธรรมทางพุทธศาสนา

โครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่หลวงพ่อเจือเริ่มต้น ได้ขยายผลเป็น กองทุนสวัสดิการชุมชน ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครอบครัวที่มีฐานะยากจน โดยมีเงินทุนหมุนเวียนและการบริจาคจากศิษยานุศิษย์เป็นประจำ

บทสรุป: มรดกแห่งความเมตตาและปัญญา

การครบรอบ 16 ปี มรณภาพของหลวงพ่อเจือ ปุสฺสวโร ในวันนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราทุกคนได้มาทบทวนคุณค่าของการใช้ชีวิตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม การแบ่งปันความรัก และการสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับสังคม

ความเชื่อเรื่องเลขเด็ด แม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงาน แต่ก็สะท้อนถึงความศรัดธาและความผูกพันของประชาชนที่มีต่อหลวงพ่อเจือ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าแม้ท่านจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่พรและความเมตตาของท่านยังคงอยู่เป็นนิรันดร์

สิ่งที่สำคัญกว่าการหวังโชคลาภจากตัวเลขใดๆ คือ การนำคำสอนและแบบอย่างของหลวงพ่อเจือ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การมีจิตเมตตากรุณา การช่วยเหลือผู้อื่น การศึกษาหาความรู้ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม

งานบำเพ็ญกุศลครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการระลึกถึงอดีต แต่เป็นการปลูกฝังแรงบันดาลใจสำหรับอนาคต เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และสืบทอดมรดกทางจิตวิญญาณที่ล้ำค่านี้ต่อไป

วัดดงตาลและชุมชนสองพี่น้อง จะยังคงเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ การปฏิบัติธรรม และการพัฒนาสังคม ตามรอยเท้าของหลวงพ่อเจือ ผู้เป็นทั้งพระเกจิอาจารย์ครูบาอาจารย์ และผู้นำทางจิตวิญญาณที่จะอยู่ในดวงใจของลูกศิษย์และประชาชนไปตลอดกาล