มหากาพย์ชีวิตจริงที่น่าตื่นตะลึงกำลังถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน เมื่อชายคนหนึ่งถูกแฉว่าเป็น “ไฮโซเก๊” ผู้สร้างภาพลักษณ์หรูหราเพื่อหลอกลวงผู้คน โดยเฉพาะสาวสวยที่มีชื่อเสียง เรื่องราวของนายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นายฮอต” วัย 32 ปี กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังจากที่หลายคนออกมาเปิดเผยประสบการณ์ที่เคยมีกับชายคนนี้
จุดเริ่มต้นของการเปิดโปง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อข่าวของนายฮอตแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ ทำให้เพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมเดียวกันจำนวนมากต่างพากันออกมาแชร์ประสบการณ์และแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก หนึ่งในนั้นมีโพสต์ที่น่าสนใจระบุว่า “วัยเด็ก (2553) ไฮโซเก๊ เคยกล่าวไว้ว่า ครอบครัวจากตระกูลดัง ให้มาฝังตัวอยู่ต่างจังหวัด เพื่อฝึกความสมถะ #ผมนี่ว้าวเลย” โพสต์นี้ทำให้เห็นถึงการสร้างเรื่องราวชีวิตที่ไม่เป็นความจริงของนายฮอตตั้งแต่วัยเยาว์
การสร้างภาพลักษณ์สู่การหลอกลวง
แอดมินกลุ่ม “หาเพื่อนเที่ยวหาเพื่อนกิน” ได้เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับนายฮอตว่า ในปี 2564 เขาได้โพสต์ข้อความในกลุ่มว่า “หาเพื่อน สายโรงแรม สายBar สายล่องเรือยอร์ช เรือสปีดโบ๊ท ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา พิกัด กทม. ไว้วันว่างๆ เวลาตรงกันมาเที่ยว พักผ่อน นั่งดื่ม นั่งชิว กันได้นะครับ วันธรรมดาก็เที่ยวได้ ถ้าว่างตรงกัน ปล.ผมสามารถดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ได้ ตามความเหมาะสม” พร้อมโพสต์ภาพไลฟ์สไตล์หรูหรา ทั้งการเที่ยวร้านหรู และดื่มแชมเปญราคาแพง เพื่อดึงดูดสาวๆที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกัน
นายฮอตและแอดมินกลุ่มได้นัดพบกัน โดยนายฮอตแนะนำตัวว่าชื่อ “ชาลี” และปรากฏตัวในลุคทรงเสี่ย โชว์เครื่องประดับทอง จนสมาชิกในกลุ่มเรียกขานเขาว่า “เฮียชาลี” หลังจากนั้น กลุ่มได้นัดเที่ยวกันหลายครั้ง ทุกครั้งนายฮอตจะมาพร้อมบอดี้การ์ด เลี้ยงเครื่องดื่มราคาแพง และพาไปเที่ยวล่องเรือ สร้างภาพลักษณ์ของความร่ำรวยและมีอำนาจ
แอดมินเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ไปล่องเรือด้วยกัน มีสาวคนหนึ่งอยากดื่มไวน์ราคาเกิน 8,000 บาท นายฮอตก็ยินดีสั่งให้ แต่หลังจากสาวคนนั้นดื่มเพียงแก้วเดียวและขอตัวกลับ เขาก็ยกไวน์ทั้งขวดให้เธอนำกลับไปด้วย เป็นการแสดงออกถึงความใจกว้างและมีฐานะ ในช่วงเวลานั้น นายฮอตพยายามสร้างโปรไฟล์ที่ดูดีและทักทายสาวๆในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง
อดีตที่ถูกขุดคุ้ย
นอกจากนี้ยังมีการขุดคุ้ยข้อมูลในอดีตของนายฮอต พบว่าในปี 2013 มีชายคนหนึ่งที่ใช้รูปโปรไฟล์ของนายฮอตโพสต์รับงานสยิว โดยระบุว่า “อายุ 22 สูง 170 หนัก 65 พี่สาวคนไหนต้องการ โทรมาได้นะครับ แอดมาคุยกันได้ครับ ลีลาเด็ด อยากได้แบบไหนจัดให้ได้หมดครับ ขอในกรุงเทพนะครับ” แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นนายฮอตเองที่โพสต์ หรืออาจถูกแกล้ง หรือถูกสวมรอยก็เป็นได้
เรื่องราวจากนางแบบชื่อดัง
มีนางแบบและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในติ๊กต๊อกออกมาแชร์ประสบการณ์ว่า เมื่อ 4 ปีก่อน นายฮอตเคยตามจีบเธอ และชอบพาไปเที่ยว โดยมีบอดี้การ์ดติดตามตลอด วันแรกที่พบกัน เขามอบสร้อยเพชร 38 กะรัตให้เธอ แต่ภายหลังเธอค้นพบว่าเป็นเพชรปลอม
นายฮอตพยายามรวบรัดความสัมพันธ์ เรียกเธอว่า “ที่รัก” ทั้งที่คุยกันได้เพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งเธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงตัดสินใจรักษาความสัมพันธ์แบบพี่น้อง ก่อนที่จะเลิกติดต่อกันไป
เรื่องราวจากรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน
ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นางสาวตะวัน อายุ 28 ปี รุ่นน้องจากโรงเรียนเดียวกับนายฮอต เธอเล่าว่า ตอนที่เธออยู่ ม.2 นายฮอตเป็นรุ่นพี่ ม.5 และเคยตามจีบเธอ สมัยเรียน นายฮอตเป็นเด็กกิจกรรม มีบทบาทเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน เช่น นำสวดมนต์ (เพราะเป็นโรงเรียนคริสเตียน) เป็นดีเจ และเคยลงสมัครประธานนักเรียน เขาเป็นคนพูดเก่ง ชอบเอาอกเอาใจอาจารย์ และมีคารมดีมาก
เมื่อนายฮอตพยายามตามจีบเธอซึ่งเป็นนักกีฬาของโรงเรียน เธอไม่ได้สนใจเพราะยังเด็ก จึงปฏิเสธไป แต่นายฮอตยังไม่ยอมแพ้ มีครั้งหนึ่งเขาตามเธอขึ้นไปถึงชั้นเรียน ทำให้เธอต้องปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า “หนูไม่ชอบพี่ พี่อย่ามายุ่งกับหนู” ทันทีที่ได้ยินคำปฏิเสธ นายฮอตเป็นลมล้มพับไป เพื่อนๆ ต้องพาส่งห้องพยาบาล ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นอาการจริงหรือแกล้งทำ
หลังจากนั้น นางสาวตะวันยังรู้อีกว่า นายฮอตชอบตามจีบนักเรียนหญิงที่สวย โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน เช่น นักร้อง นางรำ หรือนักกีฬา นอกจากจะมอบดอกไม้ในวันวาเลนไทน์แล้ว เขายังชอบเลี้ยงสตาร์บัคส์ให้สาวๆ อีกด้วย
หลังจากเรียนจบ นางสาวตะวันเคยเห็นนายฮอตโพสต์ในโซเชียลมีเดีย Hi5 (ไฮไฟว์) อวดอ้างว่ามีตำแหน่งใหญ่โตและรู้จักผู้มีอิทธิพลหลายคน ก่อนที่เธอจะไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย จนกระทั่งเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง
รูปแบบการเลือกเหยื่อของนายฮอต
เพื่อนร่วมโรงเรียนหลายคนยืนยันว่า นายฮอตมีรูปแบบในการเลือกหญิงสาวที่จะตามจีบอย่างชัดเจน คือต้องเป็นคนสวย ผิวขาว และมีลักษณะเด่นพิเศษ เช่น เป็นนักร้อง นางรำ นักกีฬา หรือเด็กเรียนเก่ง
สรุป
เรื่องราวของนายธัญเทพ หรือนายฮอต สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการสร้างภาพลักษณ์เท็จเพื่อหลอกลวงและการใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเข้าถึงหญิงสาวที่มีชื่อเสียง เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้ทุกคนระมัดระวังในการคบหาบุคคลที่อาจไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออกมา โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียทำให้การสร้างตัวตนเท็จเป็นเรื่องง่าย
การเปิดโปงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมของนายฮอตเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลและการมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลจากผู้คนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นในโลกออนไลน์หรือชีวิตจริง
ขณะนี้ข่าวของนายฮอตยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้เสียหายจากการหลอกลวงของเขาออกมาเปิดเผยเรื่องราวอีกในอนาคต ซึ่งจะทำให้ภาพของบุคคลที่แอบอ้างตนเป็น “ไฮโซ” คนนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น
