สาธุชนแห่วัดสว่างอารมณ์ นครปฐม ตามรอยนิมิตฝันพบองค์พระราหูขนาดใหญ่ หลวงพ่อแป๊ะเผยสร้างมาแล้วกว่า 10 ปีแต่ช่างหนีหายไปกลางคัน ทิ้งร้างจนทรุดโทรม ผู้ใหญ่บ้านเขย่าเซียมซีได้เลข 25, 18, 21 สาบานหากถูกหวยใหญ่จะบูรณะให้สมบูรณ์
บรรยากาศการแสวงบุญที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ในเช้าวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อชาวบ้านทยอยเดินทางเข้ามากราบไหว้องค์พระราหูขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างจนกลายเป็นตำนานความเชื่อใหม่ของชุมชน หลังจากมีผู้ฝันเห็นองค์พระราหูแห่งนี้และเดินทางตามหาจนพบ
ภาพที่ปรากฏบริเวณลานกว้างของวัดสว่างอารมณ์ คือสาธุชนจำนวนหนึ่งพากันจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้สีดำตามธรรมเนียมการบูชาพระราหู โดยแต่ละคนนำของดำ 8 อย่างมาถวายอย่างครบครัน ทั้งถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ เฉาก๊วย น้ำอัดลมสีดำ งาดำ เปียกปูนดำ และขนมหวานสีดำ จัดใส่ถาดอย่างสวยงาม พร้อมด้วยพวงมาลัยดอกไม้สดและผลไม้นานาชนิด
ผู้ที่เดินทางมากราบไหว้ต่างพากันจุดธูปดำจำนวน 8 ดอก ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา กระทำพิธีอธิษฐานขอพรอย่างศรัทธาด้านหน้าองค์พระราหูที่มีขนาดใหญ่โตผิดปกติ แม้จะอยู่ในสภาพที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่กลับดึงดูดความศรัทธาของผู้คนได้อย่างน่าอัศจรรย์
นายสุรเชษฐ์ ภิรมย์เบี้ยว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลขุนแก้ว ผู้เป็นต้นเหตุของกระแสความเชื่อครั้งนี้ เปิดเผยถึงที่มาที่ไปอย่างน่าสนใจว่า ก่อนหน้าที่จะมีพิธีใหญ่ราหูย้ายเกิดเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้มีนิมิตฝันประหลาดเห็นองค์พระราหูขนาดมหึมาที่ยังสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยปละละเลยให้รกร้าง
“ในฝันผมเห็นองค์พระราหูขนาดใหญ่มาก ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางความรกร้าง เหมือนกำลังเรียกร้องความสนใจ ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสงสัยว่ามีจริงหรือไม่” นายสุรเชษฐ์กล่าว
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงเดินทางมายังวัดสว่างอารมณ์เพื่อสอบถามกับพระครูยติธรรมานุยุต หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “หลวงพ่อแป๊ะ” เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ว่าที่วัดแห่งนี้มีพระราหูที่สร้างค้างและถูกทิ้งร้างจริงหรือไม่
คำตอบที่ได้รับทำให้นายสุรเชษฐ์ถึงกับอึ้ง เมื่อหลวงพ่อแป๊ะพาไปดูองค์พระราหูที่มีความสูงกว่า 7 เมตร ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่เขาเห็นในความฝันเมื่อคืนก่อน หลวงพ่อเล่าว่าเคยมีการจัดสร้างมาระยะหนึ่ง แต่เกิดปัญหาเมื่อช่างจากโรงหล่อหนีหายไปกลางคัน ทำให้งานสร้างองค์พระราหูต้องหยุดชะงักและถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน
“พอเห็นองค์จริงๆ ก็ตกใจมาก เหมือนกับที่เห็นในฝันเป๊ะเลย ผมเลยชวนครอบครัวมากราบไหว้ขอพรให้ครอบครัวปลอดภัย แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง และหวังว่าจะได้โชคลาภมาบ้าง” นายสุรเชษฐ์กล่าวด้วยความศรัทธา
ที่น่าสนใจคือ ระหว่างการกราบไหว้ นายสุรเชษฐ์ได้เขย่าเซียมซีและได้หมายเลข 25, 18 และ 21 ออกมา พร้อมกับได้อธิษฐานให้คำมั่นสัญญากับองค์พระราหูว่า หากได้รับโชคหรือถูกรางวัลใหญ่ จะนำเงินส่วนหนึ่งมาร่วมบูรณะจัดสร้างองค์พระราหูให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชาอย่างสมพระเกียรติ
นายสราวุธ ไปล่นรินทร์ ไวยาวัจกรวัดสว่างอารมณ์ ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาขององค์พระราหูแห่งนี้อย่างละเอียดว่า การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 นับเป็นเวลากว่า 10 ปีมาแล้ว ในช่วงแรกมีโรงหล่อพระเข้ามารับงานสร้างองค์พระราหู แต่ปรากฏว่าหลังจากรับงานไปได้ระยะหนึ่ง ช่างกลับหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ตอนนั้นประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ งานสร้างพระราหูก็ดำเนินไปได้แค่ขั้นตอนการขึ้นพิมพ์ด้วยขี้ผึ้งเท่านั้น หลังจากช่างหนีไป ก็ไม่มีใครมาทำต่อ” นายสราวุธกล่าว
ปัจจุบันองค์พระราหูที่ถูกทิ้งร้างนั้นอยู่ในสภาพน่าเวทนา หุ่นพิมพ์ขี้ผึ้งที่ปั้นไว้ภายนอกเกิดการทรุดตัวลงเนื่องจากถูกแดดถูกฝนมาเป็นเวลานาน มีไม้เลื้อยและวัชพืชขึ้นปกคลุมจนดูรกร้าง แต่กลับสร้างความศรัทธาให้กับผู้คนที่ได้รับรู้เรื่องราวผ่านนิมิตฝัน
หลังจากเรื่องราวขององค์พระราหูที่ถูกทิ้งร้างกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวบ้าน มีผู้คนทยอยเดินทางมากราบไหว้ขอพรอย่างต่อเนื่อง บ้างก็มาขอหวย บ้างก็มาขอให้ชีวิตแคล้วคลาดปลอดภัย บ้างก็มาขอให้การค้าการขายเจริญรุ่งเรือง
นางสมศรี อายุ 65 ปี ชาวบ้านใกล้เคียงที่เดินทางมากราบไหว้ กล่าวว่า “พอได้ยินเรื่องจากผู้ใหญ่สุรเชษฐ์ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจ เลยชวนลูกหลานมากราบไหว้ด้วย อย่างน้อยก็ขอให้องค์พระราหูคุ้มครองให้ครอบครัวปลอดภัย”
ด้านพระครูยติธรรมานุยุต หรือหลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ กล่าวว่า การที่มีคนฝันเห็นและมาค้นพบองค์พระราหูที่ถูกลืมไปนานนี้ ถือเป็นนิมิตที่ดี อาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่จะต้องบูรณะองค์พระราหูให้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ทางวัดมีแผนที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระราหูให้สมบูรณ์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้บูชาอย่างสมพระเกียรติ แต่ต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม และต้องหาช่างฝีมือดีมาทำต่อให้เสร็จ” หลวงพ่อแป๊ะกล่าว
เรื่องราวขององค์พระราหูยักษ์ที่วัดสว่างอารมณ์ได้กลายเป็นที่พูดถึงในหมู่ชาวบ้านอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการที่มีคนฝันเห็นและตามหามาจนพบ รวมถึงการเขย่าเซียมซีได้เลขนำโชค ทำให้มีผู้คนสนใจเดินทางมากราบไหว้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
บางคนมองว่านี่อาจเป็นการส่งสัญญาณจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องการให้องค์พระราหูได้รับการบูรณะให้สมบูรณ์ หลังจากถูกทิ้งร้างมานานกว่าทศวรรษ ขณะที่บางคนก็หวังว่าการมากราบไหว้จะนำโชคลาภมาให้กับตนเองและครอบครัว
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การที่องค์พระราหูแห่งนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อการอนุรักษ์และสืบสานศาสนสถาน รวมถึงความเชื่อความศรัทธาที่มีมาแต่โบราณ
สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปกราบไหว้องค์พระราหู วัดสว่างอารมณ์ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เปิดให้เข้ากราบไหว้ทุกวัน โดยควรเตรียมเครื่องเซ่นไหว้สีดำ 8 อย่างตามธรรมเนียม และธูปดำ 8 ดอก เพื่อความเป็นสิริมงคล
ปัจจุบันทางวัดได้เริ่มดำเนินการประเมินสภาพขององค์พระราหูและวางแผนการบูรณะเบื้องต้นแล้ว โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาในการร่วมบูรณะองค์พระราหูให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนต่อไป
เรื่องราวขององค์พระราหูยักษ์ที่ถูกทิ้งร้างแห่งวัดสว่างอารมณ์ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความเชื่อความศรัทธาที่ยังคงมีพลังในสังคมไทย แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะหาทางเรียกร้องความสนใจจากผู้คนให้กลับมาดูแลและบูรณะ เพื่อให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบไป