ทำน้ำหนักมวยชักวุ่น

News กีฬา ข่าวด่วนวันนี้

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

วุ่นวายกันเลยทีนี้ เรื่องเกี่ยวกับการทำน้ำหนักมวย เมื่อนักมวยสาวแม่เลี้ยงเดี่ยว “เงาพระจันทร์ ลูกทรายกองดิน” ทำน้ำหนักไม่ได้จนต้องยกเลิกการชกกับเซฟกี้ วีนั่มมวยไทย ที่มีโปรแกรมขี้นพบกันในรายการ “RWS” ราชดำเนิน เวิร์ลด์ ซีรี่ส์ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำเอาแฟนๆ ผิดหวังไปตามกัน เพราะทั้งคู่นั้นกำหนดฟาดปากกันในรุ่นแบนตั้มเวท 118 ปอนด์ ปรากฏว่าสาวตุรกีมา 117 ปอนด์ ส่วนสาวไทยมา 121 ปอนด์ เกินพิกัดไปถึง 3 ปอนด์ อย่างไรก็ตามสาวตุรกียินดีขึ้นชก แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีการชั่งน้ำหนักอีกครั้งในเช้าวันชก โดยกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 125 ปอนด์

การชั่งน้ำหนักอีกครั้งในเช้าวันชกนี้เรียกว่า Rehydration Clause คือการชั่งน้ำหนักหลังเติมความสดชื่นให้ร่างกายแล้ว ส่วนใหญ่จะกำหนดกันให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาได้ประมาณ 5% – 7% อย่างกรณีนี้ก็คือเพิ่มมา 6% ปรากฏว่าตอนเช้าเซฟกี้มา 124.7 ปอนด์ แต่เงาพระจันทร์มาถึง 129.9 เกิน Rehydration clause ไปอีกถึงเกือบ 5 ปอนด์ เรียกว่าจากที่พิกัดเกินไป 3 ปอนด์ พอชั่งที่ Rehydration clause กลับเกินมากขึ้นไปอีก แบบนี้สาวตุรกีเลยไม่ยอมชกด้วย แฟนๆ เลยตั้งคำถามกันมากมายถึงการทำน้ำหนักไม่ได้ของแม่เลี้ยงเดี่ยวรายนี้ ว่ามีความเป็นมืออาชีพแค่ไหนในการเตรียมความพร้อม หลายเสียงถึงกับตั้งเป็นข้อสังเกตเลยว่าตั้งใจเอาเปรียบคู่ต่อสู้หรือเปล่า โดยอ้างว่ายอมให้หักค่าตัวแล้ว เพราะหักค่าตัวไฟต์นี้ก็หักไป แต่ระยะยาวแล้วถ้าชนะได้ชิงแชมป์ มีโอกาสได้ค่าตัวและสปอนเซอร์อัดฉีดต่างๆ อีกเยอะ แต่ทั้งหมดนี้ก็ได้แต่ตั้งเป็นข้อสังเกต จริงๆ การเตรียมตัวเป็นอย่างไรก็ต้องทางค่ายมวยและตัวนักมวยเท่านั้นที่จะรู้

งานนี้พูดจริงๆ สุดท้ายไม่ได้ชกกันนั้นถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะทางเวทีมวยราชดำเนินอุตส่าห์กำหนดไว้ว่าคู่นี้จะเป็นคู่ตัดเชือก เพื่อหาผู้ชนะไปชิงแชมป์เวทีมวยราชดำเนินหญิงกับโสมรัศมี มานพยิม ซึ่งผู้ชนะจะได้ชื่อว่าเป็นแชมป์มวยหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเวทีมวยราชดำเนินที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ทีนี้ในเมื่อเป็นการตัดเชือกในรุ่นแบนตั้มเวท นักมวยก็ควรทำน้ำหนักให้อยู่ในพิกัดแบนตั้มเวท การที่เซฟกี้ยอมชกด้วยในทีแรกก็เพื่อไม่ให้เสียรายการ แต่ถ้าได้ชกกันจริงๆ และเงาพระจันทร์เกิดชนะขึ้นมา เงาพระจันทร์ก็ไม่ควรได้สิทธิ์ขึ้นไปชิงเข็มขัดกับโสมรัศมี ดังนั้นสุดท้ายการที่ไม่ได้ชกกัน และทาง RWS ตัดสินให้เซฟกี้ได้สิทธิ์ขึ้นชิงแชมป์ประวัติศาสตร์กับโสมรัศมีเลยนั้นถูกต้องแล้ว

ตอนนี้เรื่องการทำน้ำหนักตัวไม่ได้ของนักมวยไทย กำลังเริ่มเป็นค่านิยม “ผิดๆ” ที่เห็นเกิดขึ้นเยอะมาก ก่อนหน้านี้ที่เป็นประเด็นก็ไฟต์ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่9 ที่มาเกินพิกัดในการพบกับรถถัง จิตร์เมืองนนท์ ในรายการของวัน ลุมพินี แถมสุดท้ายซุปเปอร์เล็กเอาชนะได้อีกต่างหากจนถูกครหานินทาไปทั่วเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาวงการมวยบ้านเราลดน้ำหนักกันแบบบ้านๆ มาเร่งรีดกัน 2-3 วันสุดท้าย โดยมองว่าทำให้นักมวยไม่โหย ได้ซ้อมเต็มที่ และมักมาให้เกินพิกัดนิดๆ มาลดกันหน้าตาชั่ง ลดครึ่งบ้าง ลดหนึ่งบ้าง ซึ่งพอทำได้สบายๆ โดยเชื่อกันว่าทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ มาตอนนี้มาเกินกันเยอะๆ ไม่ลดด้วย โดยถือว่ายอมให้หักค่าตัวไป พอรายการให้ค่าตัวเฟ้อมากๆ นักมวยก็ไม่กลัว หักได้หักไป ยังเหลืออีกเยอะ และเชื่อว่ารายการไม่กล้ายกเลิก เพราะกลัวเสียรายการ ทางคู่ชกก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะไม่ยอมชก ก็กลัวถูกครหาว่ากลัว แต่บางทีทุกฝ่ายก็ลืมไปว่าจะมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยของนักมวย ที่น้ำหนักตัวต่างกันเยอะเกินไป จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป หรือจะหาทางทำอะไรให้กีฬามวยเป็นกีฬาของนักสู้ที่มีน้ำใจนักกีฬาจริงๆ คนในวงการคงต้องหาทางออกร่วมกันดู